พท.เย้ย “บิ๊กตู่” ดูปาหี่! คลัง สอบปมท่อส่งน้ำ EEC ตั้ง “ผู้ตรวจ” สอบ รมช.

ขุนคลัง ตั้ง! “วิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย” นั่ง ปธ.สอบข้อเท็จจริง ปมประมูลท่อส่งน้ำในพื้นที่ EEC ตีกรอบส่งรายงานผลสอบ 20 พ.ค.นี้ ด้าน โจ้’เพื่อไทย สวนทันควัน จึ้ “บิ๊กตู่” ลงมาดู “ปาหี่” ตั้งคนตำแหน่งต่ำกว่าสอบ รมช.คลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามใน คำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 883/2565 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยมี นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และให้คณะกรรมการฯชุดดังกล่าว รายงานผลการตรวจสอบให้กระทรวงการคลังรับทราบภายในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้

สำหรับ ประเด็นที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ จะเข้าไปตรวจสอบประกอบด้วย 1.ตรวจสอบกระบวนการคัดเลือกว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 2.ตรวจสอบทางกายภาพระบบท่อส่งน้ำ สถานีสูบน้ำ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการส่งมอบและรับมอบ โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อการจัดทำระบบสาธารณูปโภคและหรือผู้ใช้น้ำ และ 3.พิจารณาข้อมูลปริมาณน้ำที่ส่งให้แก่ผู้ใช้น้ำ เปรียบเทียบกับลักษณะทางกายภาพของท่อส่งน้ำว่ารายได้ที่นำส่งเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด

   

จากคำสั่งดังกล่าวมีเนื้อหาระบุว่า ด้วยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการจัดให้บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2535 และวันที่ 12 กันยายน 2535 โดยได้จัดทำสัญญากับบริษัทฯ กำหนดระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

ต่อมาบริษัทฯ ได้เปลี่ยนสภาพจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน และโครงการที่อยู่ระหว่างจัดทำสัญญาเช่า 2 โครงการ คือ โครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) โดยได้กำหนดเงื่อนไขให้บริษัทฯ บริหารจัดการ และชำระค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์

กรมธนารักษ์ ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการ ได้ดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกทั้ง 3 โครงการ ตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 กฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2554 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการคัดเลือกเอกชนเพื่อจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุที่มีราคาเกินห้าร้อยล้านบาท พ.ศ.256

และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 คณะกรรมการที่ราชพัสดุได้มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกผู้บริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกดังกล่าว โดยให้สิทธิการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก มีกำหนดระยะเวลา 30 ปี จึงได้กำหนดให้มีการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 และได้มีการเลื่อนการลงนามสัญญาโครงการฯ เนื่องจากปรากฏตามสื่อสารมวลชนต่างๆ ว่า ยังมีข้อสงสัยในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก

เพื่อให้เกิดความกระจ่างในเรื่องดังกล่าว ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่ม โดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังนี้

องค์ประกอบ…1.นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการ 2.นายปิยกร อภิบาลศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รองประธานกรรมการ 3.นายวิรัช เกตุนวม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ กรรมการ 4.นายดนัย วิจารณ์ ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคลกรมธนารักษ์ กรรมการ 5.นายศุภชัย ตั้งวัฒนากร ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กรรมการ 6.นายชรินทร เข็มราช นิติกรชำนาญการพิเศษ กรรมการ 7.นายอาทร ยงกิตติธรากุล เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ ชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ 8.นายพัฒน์พงษ์ อินทร์มั่น เจ้าหน้าที่จัดผลประโยชน์ ชำนาญการพิเศษ ผู้ช่วยเลขานุการ 9.นายสยาม โพธิ์เกิด นายช่างสำรวจอาวุโส ผู้ช่วยเลขานุการ 10.นายนพดล ธรรมโม นิติกรชำนาญการ ผู้ช่วยเลขานุการ

หน้าที่และอำนาจ…1.ตรวจสอบกระบวนการคัดเลือกว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 2.ตรวจสอบทางกายภาพระบบท่อส่งน้ำ สถานีสูบน้ำ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการส่งมอบและรับมอบ โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อการจัดทำระบบสาธารณูปโภคและหรือผู้ใช้น้ำ 3.พิจารณาข้อมูลปริมาณน้ำที่ส่งให้แก่ผู้ใช้น้ำ เปรียบเทียบกับลักษณะทางกายภาพของท่อส่งน้ำว่ารายได้ที่นำส่งเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด 4.รายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงการคลังทราบ ภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2565

ทางด้าน พรรคฝ่ายค้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า อยากให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ลงมาตรวจสอบเรื่องการตั้ง คณะกรรมการของกระทรวงการคลัง เนื่องจากเป็นไปในลักษณะของการเล่น “ปาหี่” หลอกลวงคนไทย เพราะตัว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯชุดนี้ คือ นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง จะไม่สามารถดำเนินตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ด้วยเหตุที่ประธานคณะกรรมการที่ราชพัสดุฯ คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกำกับดูแลกรมธนารักษ์ มีสถานะหรือตำแหน่งที่สูงเกินกว่าการจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายวิจักษณ์และคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ จึงอยากให้ พลเอกประยุทธ์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในระดับที่สูงกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวพรรคฝ่ายค้าน พร้อมจะนำไปเป็นประเด็นในการอภิปรายไม่วางใจรัฐบาลในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน.