“สร้างอนาคตไทย” ประชุมใหญ่คึกคัก เลือก กก.บห. 22 คน ตั้ง “อุตตม” หัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์” เลขาฯ ขับเคลื่อนนโยบาย 5 ด้าน พาประเทศพ้นวิกฤต ขจัดเหลื่อมล้ำ ชู “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” แคนดิเดตนายกฯ “นิพิฏฐ์” ลั่นทำสงครามครั้งสุดท้าย
วันที่ 20 เม.ย.2565 พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่1/2565 โดยมีแกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และสมาชิกทั่วประเทศกว่า 500 คน เข้าร่วมประชุม ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร โดยเลือก อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ, สันติ กีระนันท์ เหรัญญิก,นิทัศน์ ประทักษ์ใจ นายทะเบียน และ กรรมการบริหารอีก 12 คน ประกอบด้วย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, สุพล ฟองงาม ,สุรนันทน์ เวชชาชีวะ, วิเชียร ชวลิต,นริศ เชยกลิ่น, วัชระ กรรณิการ์, รักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ,วิรัช วิฑูรย์เธียรล,โอฬาร วีระนนท์,อิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล, ทิพย์พาพร ตันติสุนทร และ น.ส.โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ
นายอุตตม สาวนายน ปราศรัยเปิดตัวในฐานะหัวหน้าพรรคสอท. ว่า ตั้งแต่ 19 ม.ค. 2565 ตนและคณะผู้ก่อตั้งพรรค สอท. ได้แสดงเจตนารมณ์จะทำงานให้กับบ้านเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน คือ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและวางรากฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาประเทศ จนถึงขณะนี้เราทำงานกันอย่างหนัก ผ่านการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วน และเปิดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่ชุดความคิดใหม่ รองรับนโยบายและขับเคลื่อนที่นโยบายให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด และเชิญผู้ร่วมอุดมการณ์จากหลายภาคส่วน มาทำงานร่วมกันนับจากนี้ไป เราจะขับเคลื่อนเพื่อให้พรรค สอท. เป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคง เป้าหมายสูงสุดคือ การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากหลากหลายมิติทั้งเศรษฐกิจและปากท้อง การเผชิญภาวะของแพง รายได้ตกต่ำ คนจนลง ในขณะที่คนส่วนน้อยเพียงบางกลุ่มที่ร่ำรวยจากภาวะวิกฤตซ้ำซ้อน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นการตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม ดังนั้นทำอย่างไรคนไทยจะหลุดจากวงจรความยากจน และมีโอกาสเท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรมีที่ทำกิน มีโอกาสเข้าถึงสวัสดิการที่สมควรได้ เช่น การศึกษาที่มีคุณภาพ และยังมีปัญหาอีกนานัปการ ทั้งเรื่องความอยุติธรรมที่ไม่เสมอภาคในสังคม ระบบและโครงสร้างรัฐราชการที่ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนที่กำลังประสบปัญหาได้ เพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างมานาน“ปัญหาที่เราอาสามาแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าง่ายวันนี้ ผู้ที่มีอำนาจในปัจจุบันหรือในอดีตก็คงแก้ไขเรียบร้อยไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ประชาชนจะได้มีพรรคการเมืองทางเลือก ที่เป็นที่พึ่งได้สักครั้งหนึ่ง นี่คือเหตุผลที่เรามาร่วมกันทำพรรค สอท. เพื่ออาสาเสนอทางออก และเสนอชุดความคิดใหม่เพื่อนำไปสู่นโยบายและแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ผมเชื่อว่าทุกคนที่มาร่วมทำงานกับเราไม่ได้เข้ามาแสวงหาอำนาจ และเราก็ไม่เคยแสวงหาไขว่คว้าหาอำนาจนั้น หากคนที่อยู่ในแวดวงการเมืองวันนี้สามารถแก้ไขปัญหาให้รู้ล่วงไปได้เราก็ไม่จำเป็นต้องมาทำงานการเมือง”เราต้องการสร้างพรรค สอท. โดยมีชุดนโยบาย 5 สร้างคือ 1.สร้างเศรษฐกิจฐานรากไทยให้เข้มแข็งและทันสมัย 2.การสร้างเศรษฐกิจใหม่หรือโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต 3.สร้างคนและวิทยาการที่พร้อมที่จะก้าวสู่สังคมโลกแห่งอนาคต 4.สร้างสังคมที่เป็นธรรมและเกื้อกูล และ 5. สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ เพราะที่ผ่านมาเราติดกับดักการแย่งชิงอำนาจ คือเมื่อเข้าสู่อำนาจแล้วก็จะยึดติด และพยายามสืบทอดอำนาจ ก่อให้เกิดความร้าวฉาน และแบ่งพรรคแบ่งพวก นำไปสู่ภาวะชะงักชะงันในการบริหารราชการประเทศนายอุตตม กล่าวด้วยว่า บัตรประชารัฐที่ใช้อยู่นั้น เราเป็นผู้ริเริ่มคิดขึ้น ก็อยากจะเข้าไปต่อยอดให้ดีกว่าเดิม รวมถึงแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ระบบพร้อมเพย์ ที่เป็นคนริเริ่มก็ประสบความสำเร็จ และยังใช้เป็นเครื่องมือเยียวยาประชาชนอยู่ ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ อีอีซี เราก็เป็นผู้ริเริ่มเพื่อเป็นพื้นที่สนับสนุนการลงทุน ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนานำพาประเทศให้ก้าวทันโลก แต่ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่ได้ทำงานมาระยะหนึ่ง ไม่สอดคล้องกลับความตั้งใจของเราที่จะเข้าไปทำงาน เราจึงก้าวออกจากการเมือง แต่จากนี้ไป จะเป็นการนับหนึ่งพรรค สอท. อย่างเต็มอัตราศึก โดยจะเสนอ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค สอท. เพราะเป็นบุคคลที่มีความสามารถสูงสามารถเป็นผู้นำประเทศในอนาคตได้“ส่วนคำถามที่ว่าเราจะสู้พรรคการเมืองเก่าได้หรือไม่นั้น ผมเชื่อว่าตรงนั้นเป็นความคิดการเมืองแบบเก่า วันนี้ประชาชนเปลี่ยนไปแล้ว สามารถแยกแยะได้ว่านี่คือการยึดติดกับการเมืองไม่สร้างสรรค์มากกว่าที่จะมุ่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน จะทำให้ประเทศไทยไม่ไปไหน และการเมืองติดหล่มสังคมมีแต่ความขัดแย้งวันนี้จึงเป็นหน้าที่ของพรรคทสอท. โดยการเสนอชุดความคิดใหม่และเสนอนโยบายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนและโอกาสของประเทศ” นายอุตตม กล่าวนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะ กรรมการบริหารพรรค สอท. กล่าวขอบคุณคณะผู้บริหาร และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนเชิญตนเองมาร่วมงานเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่าน ซึ่งการพูดคุย 2 ครั้ง ตนได้แจ้งไปว่า เมื่อเดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ตนเสมือนเป็นสิ่งที่ชำรุดทางการเมืองไปแล้ว แต่ ดร.สมคิด หัวหน้าพรรค บอกว่าตนยังมีประโยชน์ทางการเมือง จึงขอให้มาช่วยงานฟื้นฟูภาคใต้ โดยใช้คำพูดว่า “ทำภาคใต้ให้หายจน” และก็ขอบอกว่าครั้งนี้เป็นการทำสงครามครั้งสุดในในชีวิต แพ้ชนะไม่เสียใจเลย เพราะกำลังหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนภาคใต้ พร้อมย้ำว่า ในอดีตใส่เสื้อแจ็คเก็ตของพรรคประชาธิปัตย์ แต่วันนี้มาใส่แจ็คเก็ตของพรรคสร้างอนาคตไทย ฉะนั้นขออย่าดูแจ็คเก็ตที่ใส่ เพราะไม่ว่าจะใส่แจ็คเก็ตไหนก็ตาม หัวใจของตนยังเหมือนเดิมทุกประการและในฐานะที่เป็นนักกฎหมายก็จะสู้เพื่อสิ่งนี้ให้กับประชาชน