ได้เห็นภาพความนอบน้อม อ่อนน้อมถ่อมตนของ “สุนทร รักษ์รงค์” ผู้ซึ่งเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.เขตชะอวด จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ ด้วยการเดินทางเข้าพบคารวะผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำนองฝากเนื้อฝากตัวขอคำแนะนำ โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ในเขตเลือกตั้ง ให้รู้สึกชื่นอกชื่นใจ
เมื่อเดือนก่อนเห็นไปพบปราชญ์ย่านชะอวด และล่าสุด สุนทร เข้าคารวะ “โกหว่า” วรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์ คหบดีใจบุญ ผู้มากบารมี ที่บ้านพักในอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช “โกหว่า” มีคาถาอาคม มีอักขระ สร้างพระช่วยเหลือสังคมมามาก และทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง คนที่ลงสมัคร สส.ย่านทุ่งสง จะต้องไปคารวะ “โกหว่า”
“โกหว่า” ยังมีลูกชายที่เดินมาในแนวทางนี้ แต่เน้นไปทางอำนาจบารมี ตั้งค่ายมวย “ค่ายพรัญชัย” แน่นอนผมกำลังหมายถึง “โกเด๊ะ” หรือ พรัญชัย อดิเทพวรพันธ์ นั่นเอง ได้ยินนามสกุลอาจจะคุ้นๆ แต่คงคุ้นเพราะที “นริศา อดิเทพวรพันธ์” เป็น สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ด้วย ซึ่ง “โกเด๊ะ” ก็ผลักดันให้ “นริศา” ได้ลงสมัครแน่นอน ส่วนจะเขตไหน พรรคไหน ยังพูดยาก
แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ ยังไม่รู้ว่า “นริศา” ยังจะลงสมัคร สส.อยู่อีกหรือไม่ และถ้าลงยังจะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์อยู่อีกหรือไม่ เพราะเขต 1 เดิม มีการเปิดตัว “ราชิต สุดพุ่ม” อดีตผู้ว่าฯปัตตานีไปแล้ว เดิม “นริศา” เป็น สส.เขต 1 ของนครศรีธรรมราช แต่เมื่อมีการแบ่งเขตใหม่ “นริศา” ไปลงเขตอีกเขตที่ไม่ใช่เขต 1 เดิม และ ก็แพ้เลือกตั้ง
กล่าวสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ ทยอยเปิดตัวผู้สมัครไปบ้างแล้ว แน่นอนว่า สส.เก่าน่าจะลงเขตเดิม เพียงแต่รอความแน่ชัด จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่ สส.เก่าก็ต้องลงเขตที่ตนเองมีฐานเสียงหลักอยู่ เช่น ชัยชนะ เดชเดโช , ชินวรณ์ บุณยเกียรติ์, ประกอบ รัตนพันธ์ , พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล หรือ บางคนอาจจะย้ายเขต ตามการแบ่งเขตของ กกต.
ถ้าเพื่อความเหมาะสม “นริศา” ควรจะได้ลงเขตเมือง (บางส่วน) อ.พระพรหม และ อ.ปากพนัง (ฝั่งตะวันตก) แต่เขตนี้ประชาธิปัตย์ ได้เปิดทางให้ พิทักษ์เดช เดชเดโช น้องชายของ ชัยชนะ เดชเดโช ทำพื้นที่ไปแล้ว ส่วนเขตชะอวด จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเดิม พงศ์สิน เสนพงศ์ น้องชายของ เทพไท เสนพงศ์ เคยลงเมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อม เขต 3 แต่แพ้ให้กับอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถ้าเลือกตั้งใหม่ “พงศ์สิน” ก็น่าจะเสนอตัวลงเหมือนเดิม และน่าจะทับซ้อนกับเขตที่ “สุนทร” เสนอตัวลงเลือกตั้งชัยชนะ (แทน) เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้า กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่แล้ว อ.ร่อนพิบูลย์ อยู่เขตไหนเป็นหลักแทนก็จะลงเขตนั้น ซึ่งเขตเดิมของ “แทน” ก็จะมีร่อนพิบูลย์ ลานสกา เป็นต้น ก็ต้องรอ กกต.แบ่งเขตเช่นกัน แต่เข้าใจว่า เขตเลือกตั้งใหม่ กกต.น่าจะซอยย่อย อ.ร่อนพิบูลย์ ออกเป็นสองเขตเลือกตั้ง อยู่ที่แทนว่าจะลงเขตไหน ซึ่งมีร่อนพิบูลย์อยู่ ทั้งสองเขตเลือกตั้ง
สำหรับ”ชินวรณ์” ฐานแน่นอยู่ย่าน อ.ฉวาง ก็ต้องลงโซนเดิม แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ประกอบ รัตนพันธ์ สส.ย่านทุ่งสง ที่คราวที่แล้วชนะไปเพียง 2000 กว่าคะแนน แต่คราวหน้า จะมีคู่ชิงหลายคนมีแย่งคะแนนไป มีข่าวที่ไม่ยืนยันว่า เห็น “ประกอบ” ไปปรากฏตัวย่านทุ่งใหญ่-บางขัน คู่กับ “ชินวรณ์” บ่อยครั้ง จึงตั้งข้อสังเกตว่า “ประกอบ” จะย้ายเขตหรือเปล่า เพราะเขตนั้นยังว่าง สส.อยู่ และน่าจะปล่อยภัยกว่า ลงย่านทุ่งสง
ส่วน พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็น สส.ประชาธิปัตย์มาหลายสมัย ตั้งแต่คุณพ่อ (มาโนช วิชัยกุล) ยังอยู่ ขยันขันแข็งลงพื้นที่ต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน แต่หลังจาก “มาโนช” จากไปก็มีสัญญาณแปลกๆจาก “หนูปุ้ย” เช่น แซตในเฟสบุ๊ค ทำนองว่ามีอิสระแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไร
ส่วน สุนทร รักษ์รงค์ ถือว่าเป็นหน้าใหม่ที่เสนอตัวลงในนามประชาธิปัตย์ แต่เป็นการเปิดตัวอย่างสวยงามกับวลี “ลูกชาวบ้าน” หรือ “การเมืองไม่ใช่เรื่องของการแสวงหา (ประโยชน์) ซึ่ง มีกระแสตอบรับที่ดี ถึงขั้นดีมาก เพราะแม้ “สุนทร” จะเป็นมือใหม่ทางการเมืองในรูปแบบการลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่”สุนทร” เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมายาวนาน ตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักศึกษา ช่วงพฤษภาประชาธรรม “สุนทร” ก็หอบหิ้วนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ( มอ.ปัตตานี) ซึ่ง “สุนทร” เป็นนายกองค์การนักศึกษาอยู่ ขึ้นมาร่วมขบวนการรัฐบาลสืบทอดอำนาจด้วย
จบออกมาแล้ว “สุนทร” ก็ยังคงเคลื่อนไหวทางสังคมต่อเนื่อง แต่มุ่งเป้าไปสู่ชาวสวนยาง ที่ยังมองเห็นความเสียเปรียบ และด้อยโอกาสหลายประการ รวมถึงการขับเคลื่อนช่วยเหลือชาวสวนปาล์มด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ “สุนทร” จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย และล่าสุดยังได้รับความไว้วางใจให้เป็น 1 ในรัฐมนตรียางพาราด้วย
“สุนทร” ผ่านการต่อสู้ ผ่านแนวรบเพื่อประชาชนมามาก หรือ แม้กระทั่งการปลดล็อค กระท่อม ปลดล็อค กัญชง กัญชา เพื่อให้พ้นจากพืชเสพติด เป็นพืชเศรษฐกิจ “สุนทร” ก็มีส่วนร่วมอยู่ในบางบริบท “สุนทร” จะได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.หรือไม่ อยู่ที่ขบวนพิจารณาของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีขั้นตอนในการสรรหา ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหา หรืออาจจะต้องทำโพลล์ ทำไพรมารี่โหวต ผ่านกรรมการบริหารพรรค
แต่บอกได้เดียวว่า ถ้าสุนทรไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์จะสูญเสียบุคลากรที่ทรงคุณค่ายิ่งไป
#นายหัวไทร #ลูกชาวบ้าน #สุนทร