“เฉลิมชัย” จับมือ ม.เชียงใหม่ เปิดศูนย์ นวัตกรรมสกัดสารพืชกระท่อม สู่เกษตรมูลค่าสูง

รมว.เกษตรฯ เร่งปฏิรูปภาคเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง ผนึกมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดศูนย์นวัตกรรมสกัดสารพืชกระท่อมและสมุนไพร สั่งกระทรวงเกษตร เร่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร 4.0 สนับสนุนงบวิจัยและพัฒนาของ ศูนย์ AIC ทั่วประเทศเพื่อ

วันที่ 20 มี.ค.2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกก.บริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตร และ นวัตกรรม(ศูนย์ AIC : Agritech and Innovation Center) เปิดเผย ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานเปิดศูนย์นวัตกรรมสกัดสารสมุนไพรและกระท่อมสู่การต่อยอดเกษตรมูลค่าสูง ร่วมกับ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากประชุมมรับฟังการนำเสนอโครงการพัฒนากระท่อม พืชเศรษฐกิจตัวใหม่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก บนพื้นฐาน ผู้ประกอบการยุคใหม่ ของสมาคมพืชกระท่อมแห่งประเทศไทย อันประกอบด้วย “บทบาทพืชกระท่อมไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก นำร่อง 4 จังหวัดภาคใต้” “การพัฒนาและวิจัยพืชกระท่อมสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง” เมื่อ 20 มี.ค.ณ ห้องประชุมศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเป็นศูนย์ AIC จังหวัดเชียงใหม่ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือทั้งนี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวมอบนโยบายว่า ภายใต้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของ กระทรวงเกษตรฯ.จัดทำงบประมาณ และ โครงการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม หรือ ศูนย์AICเ พื่อการวิจัยพัฒนานวัตกรรมนำมาใช้ส่งเสริมการผลิต การแปรรรูป และการตลาดเช่นพืชสมุนไพรของไทย โดยมุ่งหวังให้เกษตรกร กลุ่ม วิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการภาคเกษตรสามารถผลิตและพัฒนาสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดทั้งภายใน และภายนอกประเทศตามยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต เพื่อสร้างเกษตรมูลค่าสูง ยกระดับรายได้ของเกษตรกร อย่างยั่งยืนต่อไปนายอลงกรณ์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ.ได้จัดตั้งศูนย์ AIC 77 จังหวัดดำเนินการ ตั้งแต่1มิถุนายน 2563 และ ศูน ย์ AIC ประเภทศูนย์ความเป็นเลิศอีก23 แห่ง ตามนโยบายและยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ทำการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมกว่า 700 นวัตกรรมสามารถถ่ายทอดสู่เกษตรกรและฟาร์มกว่า8พันรายทั่วประเทศภายใต้แผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะปี 2565- 2566 ถือเป็นคานงัดสำคัญในการปฏิรูปภาคเกษตรของไทยเชิงโครงสร้างและระบบที่มีกลไกการขับเคลื่อนแบบบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ.