งานประชุมวิชาการ กัญชาทางการแพทย์ ปลดล็อกกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้ สุดพีค สสจ.อยุธยา เผยคนแห่ร่วมงาน 3 วัน กว่า 1.5 หมื่นคน เข้าคลินิกกัญชาทางการแพทย์ วันละ 2 พันราย
ที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา สถานที่จัดงาน ประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ ปลดล็อกกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้ เขตสุขภาพที่ 4 บรรยากาศในงานตลอดทั้งวันมีประชาชนสนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายทางวิชาการ เกี่ยวกับกัญชา การฝึกปฏิบัติ การปลูกกัญชา การแปรูปผลิตภัณฑ์กัญชา และการจำหน่ายสินค้า อาหารคาวหวาน แปรรูปจากกัญชา ทั้งเป็นยาสมุนไพร ยาสกัดจากกัญชา การให้บริการคลินิกกัญชา จากแพทย์แผนไทย และแผนปัจจุบัน
นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ ผู้บริหารโรงพยาบาลราชธานี จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวบรรยายว่า ในอดีตกัญชามีการนำมาเสพ โดยใช้วิธีการสูบ ทำให้เกิดอาการเมาเคลิ้มหลอน ทำให้ถูกจัดอยู่ในบัญชียาเสพติด การสูบมีโทษต่อร่างกายมาก แต่ในปัจจุบันมีการวิจัยนำกัญชามาเป็นพืชสมุนไพร ซึ่งมีคุณประโยชน์ในการรักษาอาการป่วยต่างๆ เช่นป่วยมะเร็ง กัญชาสามรถยับยังบรรเทาอาการของมะเร็ง บรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ และรักษาเรื่องของต้อหิน โดยวิธีการที่ในครัวเรือนสามารถทำเองได้ ด้วยการปลูกกัญชา ภายในบ้าน 3-4 ต้น เราสามารถ นำใบตากแห้ง นำมาต้มเป็นน้ำชา การกินใบสด ส่วนของการนำกัญชาไปสกัด แยกสารออกมาเพื่อใช้ทางการแพทย์ ต้องเป็นการทำในกลุ่มของวิสาหกิจชุมชน สิ่งสำคัญที่สุดของการให้ร่างกายเราไม่มีโรคคือการดูแลสุขภาพให้ดีก่อน กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 กล่าวว่า หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ได้มาเปิดงานวิชาการกัญชา ทำให้มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี การปลดล็อกกัญชา เป็นนโยบายหลักของพรรค ที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชน และนำเข้าสู่สภาฯ เพื่อปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ต่อไปนี้จะเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจ ทั้งในเรื่องของ กฎหมาย คุณประโยชน์ของกัญชา ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนชุมชน ประเทศชาติได้ ส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว วิสาหกิจชุมชน ที่เริ่มมีการรวมกลุ่มกันปลูกต้นกัญชาเพื่อทางการแพทย์ และการแปรรูปเป็นสินค้า แต่ละชุมชน แต่ละอำเภอมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ สามารถต่อยอดเชื่อมโยงการขายสินค้าของชุมชน ควบคู่กับการท่องเที่ยวได้
น.ส.พิชญา ภานุวงศ์ สมาชิกวิสาหกิจชุมชนคลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า บูธของกลุ่มวิสาหกิจได้รับความสนใจอย่างมาก มีการนำสินค้า ชากัญชา เนยกัญชา บราวนี่ น้ำผึงมะนาวกัญชา น้ำมะนาวกัญชา ก๋วยเตี๋ยวเรือกัญชา ซึ่งมีทั้งเนื้อและหมู มาจำหน่ายภายในงาน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สาธารณสุขอำเภอบางปะอิน สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ในการให้ความรู้กับสมาชิกทั้งในเรื่องของการปลูกกัญชา การแปรรูปการ การบรรจุผลิตภัณฑ์ ประชาชนหลายคนให้ความใจอย่างบมากจะติดตามไปใช้บริการสินค้า และขอไปเรียนรู้ศึกษา เรื่องคุณประโยชน์ของกัญชา การมาร่วมงานครั้งนี้เราไม่ได้แค่มาขายสินค้า เรามาให้ความรู้ความเข้าใจในเบื้องต้นพร้อมทั้งนำเสนอ แหล่งท่องเที่ยวของ ชุมชนเรา ของอำเภอบางปะอิน ที่หลายคนไม่ทราบมาก่อน
น.ส.เมธาวี พานทอง พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในย่านรังสิต จ.ปทุมธานี มาเที่ยวชมในงาน เปิดเผยว่า ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนทำวิสาหกิจชุมชน ปลูกกระท่อม และพืชสมุนไพร บ้านกุดแห จ.หนองบัวลำภู เปลี่ยนอาชีพปลูกอ้อย ทำนา มาปลูกกระท่อมนำไปสกัดเป็นเยื่อ แล้วส่งขายต่างประเทศเช่นประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปผลิตเป็นยา โดยมีการประกันรายได้ของกระท่อมเอาไว้ให้กับชาวบ้าน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอย่างมาก บางรายมีการเลิกปลูกอ้อยมาปลูกกระท่อมแทน
หลังจากมีการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด จึงมีความสนใจเรื่องการปลูกกัญชา จึงมาร่วมฟังการบรรยาย และดูวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ได้รับความรู้และเอกสารจากทาง อย. อย่างมาก เตรียมที่จะพาสมาชิกของวิสาหกิจชุมชน เดินทางมาศึกษาดูงานวิสาหกิจชุมชนเกี่ยวกัญชาที่ประสบความสำเร็จ เพราะสมาชิกของกลุ่มส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรอยู่แล้ว และรู้วิธีการดุแลการบำรุงรักษาพืชผลทางการเกษตรอยู่แล้ว จึงทำความเข้าใจกันง่าย กัญชาสามารถต่อยอดได้อย่างมาก บางอย่างไม่คิดว่าจะสามารถทำได้ เช่น เนยกัญชา ได้ลองชิมแล้วรสชาติดีมาก ขั้นตอนกรรมวิธีก็ไม่ยาก เชื่อว่าจากประสบการณ์ของกลุ่มสามารถ สร้างรายได้จากกัญชาได้ อีกทางหนึ่ง และมีตลาดต่างประเทศสนใจอย่างมาก หากทางภาครัฐมาสนับสนุนประชาชนในเรื่องของการให้ความรู้ การปลูกเพื่อทำอาหาร การปลูกเพื่อนำไปสกัดเป็นสารเคมีเพื่อใช้ในการผลิตยา การการปลูกเพื่อผลิตให้เป็นยาสมุนไพร ข้อกฎหมาย ช่วยการส่งออก เชื่อว่า ในอนาคตกัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจ อย่างข้าวไทยแน่นอน”
ด้าน นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 วันของการจัดงาน ประชาชนให้ความสนใจ ตื่นตัวเรื่องของกัญชาอย่างมาก ประชาชนเข้าร่วมงานตลอดทั้งงานประมาณ 15,000 คน ยังไม่รวมยอดผู้เข้าร่วมงานทางระบบออนไลน์ โดยที่คลินิกกัญชา ผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 2,000 คน มาขอรับบริการคำปรึกษาการใช้กัญชาในการรักษาอาการป่วยของโรค มีการจ่ายยา น้ำมันกัญชา อาจารย์เดชา ไปแล้วกว่า 500 ขวด ศุขไสยาศน์ 2,500 แคปซูล สรรพคุณช่วยให้นอนหลับ เจริญอาหาร ทำลายพระสุเมรุ 900 แคปซูล ใช้ในการรักษาอาการ แก้ลมจุกเสียด เมื่อยขบตามร่างกาย แก้ปวดกล้ามเนื้อ คลายกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็งจากโรคลมอัมพฤกษ์ อัมพาต ยาแก้ลมแก้เส้น 1,000 แคปซูล แก้อาการมือเท้าชา แขนขาอ่อนแรง ส่วนการจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์จากกัญชา ของร้านค้าจากวิสาหกิจชุมชนต่างๆ เฉลี่ยวันละประมาณ 150,000 บาท ซึ่งต่อจากนี้หลายวิสาหกิจชุมชน มีการพบปะกับผู้ประกอบการ การติดต่อขอรับซื้อ ต้นกัญชา ทั้งลำตันดอก ใบ จากโรงาน บริษัทที่จะนำกัญชาไปสกัด และได้รับการต่อยอดในการสั่งซื้อสินค้าเพื่อไปขายต่อ