“ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” เผย มีคนที่ลาออกจากพรรค ปชป. ฟ้อง “จุรินทร์” ใจแคบ จวก! เอาแต่พวกพ้อง ระแวงคนมีอำนาจชักใยอยู่เบื้องหลัง แนะสมาชิกรักพรรคต้องหนักแน่น ไม่ใช่ลาออกทิ้งไป
วันที่ 19 มี.ค.65 เวลา 10.30 น. ที่โรงแรมแคนทารี ฮิลล์ จ.เชียงใหม่ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวบรรยายพิเศษตอนหนึ่งในงานสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการรวมกลุ่มของนักการเมือง หากไม่มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่มั่นคง ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติ ก็เป็นแค่กลุ่มการเมือง ที่หวังผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่พรรคการเมือง ดังนั้นอุดมการณ์ของพรรคถือเป็นสิ่งสำคัญ คนจะมารวมกันได้ต้องมีอุดมการณ์ที่ตรงกันก่อน ต้องเห็นพ้องต้องกันถึงจะมารวมกัน ไม่ใช่เห็นแก่ประโยชน์หรืออามิสสินจ้าง อย่างนี้ไม่ใช่พรรคการเมือง“ในช่วงหลังคนลาออกจากพรรคฯ ไปหลายคน ต้องยอมรับว่า บางคนมาหาผมถึงบ้าน บางคนโทรศัพท์มาเล่า ผมได้ฟังแล้วก็รู้สึกว่าเขาเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ว่าการบริหารงานในพรรคใจแคบ มีการดูแลเฉพาะกลุ่มคนของนายจุรินทร์ บางคนบอกว่า ระแวงว่า ในช่วงสมัยของทั้งคุณอภิสิทธ์และคุณจุรินทร์ มีอำนาจแฝงชักใยอยู่เบื้องหลังที่มีอำนาจมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรับฟังมา แต่สิ่งเหล่านี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง หรือเกิดขึ้นจริงก็ได้ แต่เป็นสิ่งที่กินใจคนเหล่านั้น ถ้าเรารักพรรคประชาธิปัตย์ เราก็ควรต้องหนักแน่น และแก้ไขปัญหาภายในพรรค ไม่ใช่ลาออกทิ้งพรรคไป”นายไตรรงค์ กล่าวอีกว่า เราจำเป็นต้องรับฟังและให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ และนำมาแก้ไขปรับปรุงภายในพรรคเหมือนยุคหนึ่งที่นายควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค และได้เชิญ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคมาหารือกัน โดย ม.ร.ว.เสนีย์ บอกว่าพรรคการเมืองตั้งขึ้นโดย 3 อ คือ 1.อำนาจที่สั่งโดยนักการเมือง 2. อามิส คือการให้เงินไปซื้อ ส.ส.มารวมกัน 3.อุดมการณ์ ดังนั้นถ้าพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นไม่มีอุดมการณ์ มีแค่อำนาจ และอามิส ที่สุดแล้วพรรคนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อหมดอำนาจหรืออามิส พรรคเหล่านั้นก็ต้องสูญสลายไปเหมือนผึ้งแตกรัง ซึ่งเป็นรังผึ้งที่ไม่มีนางพญาอยู่ แต่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ ดังคำพูด ม.ร.ว.เสนีย์ พูดเอาไว้ เมื่อประชาธิปัตย์อายุ 12 ปี ซึ่งปัจจุบันประชาธิปัตย์มีอายุถึง 76 ปีแล้ว