อเอฟพีรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกประชุมด่วนในวันที่ 4 เม.ย. ตามคำร้องของรัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศส กรณีชาวซีเรียถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 ราย พลเรือนอีกกว่า 200 คนล้มป่วย สร้างความวิตกกังวลอย่างยิ่ง
เหตุดังกล่าวเกิดที่เมืองข่าน ชีกคุน ฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัดอิดลิบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เครื่องบินไม่ทราบฝ่าย ทิ้งระเบิดโจมตีด้วยแก๊สพิษในหมู่บ้านข่าน ชีกคุน ส่งผลให้มีผู้คนเสียชีวิตกว่า 58 ราย ในนั้นมีจำนวนเด็กที่เสียชีวิตรวมอยู่ด้วยถึง 11 ราย ต่อมาเครื่องบินลำดังกล่าวยังยิงถล่มซ้ำไปคลินิกที่ให้การรักษาผู้บาดเจ็บจากแก๊สพิษด้วย
หน่วยงานดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการกระทำดังกล่าวมาจากการโจมตีทางอากาศของซีเรีย หรือรัสเซีย และอาจมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการโจมตีจากทางกองกำลังที่นำโดยสหรัฐที่มุ่งโจมตีฝ่ายไอเอส
ด้านสหภาพยุโรป หรืออียู ระบุถึง เหตุที่เกิดขึ้นว่าเป็นสิ่งเลวร้ายและฝ่าย ที่ต้องสงสัยที่สุดคือกองทัพซีเรียที่นำโดยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
ขณะที่รัฐบาลรัสเซียแถลงว่า รัสเซียไม่ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนรัฐบาลซีเรียปฏิเสธเช่นกัน พร้อมทั้งกล่าวหากลุ่มกบฏเป็นฝ่ายที่ใช้อาวุธต้องห้ามดังกล่าว
ด้านเว็บไซต์บิลด์รายงานว่าอาวุธเคมีที่ใช้เป็นแก๊สซาริน ซึ่งเป็นอาวุธเคมีรุนแรงต่อประสาทและเป็นอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงในข้อมติสหประชาชาติที่ 687 และถูกสั่งห้ามโดยสหประชาชาติ
www.khaosod.co.th