“อนุทิน” ฟันธง “บิ๊กตู่” ไม่ยุบสภาฯ อยู่ยาวถึงปี66 ตั้งเป้าลต.ใหม่ ภท.ได้เกิน51เสียง

49

“อนุทิน” ถกแกนนำ ภท. ตั้งวงวิเคราะห์สถานการณ์รัฐบาล “บิ๊กตู่” คาดยังลากยาวไปต่อได้จนครบวาระของสภาฯเดือนมีนาฯปี 66 พร้อมสั่งจัดแถวปรับทัพรับเลือกตั้ง ชู”สายเขียว”หาเสียง มั่นใจได้ส.ส.มากกว่าเดิม หลังทำงานเข้าเป้า

วันที่ 1 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า มีการประชุมผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 28 ก.พ.​ที่ผ่านมา โดยหารือสถานการณ์การเมืองระยะเวลา 1 ปี สุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ซึ่งจะครบวาระในเดือน มี.ค.2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีนักการเมืองทั้งที่เป็น ส.ส.ปัจจุบัน และ อดีต ส.ส. สนใจสมัครเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย มากกว่า 20 รายและมีบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่น และภูมิภาค หลายจังหวัด ให้ความสนใจ เสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสที่จะเติบโตมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

นายอนุทิน ได้ให้ผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองภาพรวม ซึ่งผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำรัฐบาล ไปได้จนครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตามพรรคก็ต้องพร้อมทุกเวลา ทุกสถานการณ์ หากนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังได้มีการรายงาน และวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในแต่ละจังหวัด แต่ละเขตเลือกตั้ง เพื่อประเมินว่าพรรคภูมิใจไทย จะมีโอกาสในแต่ละจังหวัดเพียงใด และต้องปรับเพิ่มความเข้มข้นในการทำงานการเมืองเชิงลึกในพื้นที่อย่างไร รวมถึงการสรรหาบุคลากรที่มีความเหมาะสม เพื่อจะส่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดต่างๆ

“เราคาดว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า เราน่าจะได้รับการเลือกตั้งมากกว่าการเลือกตั้ง ปี 2562 คือมากกว่า 51 คน ส่วนจะมากขึ้นเท่าไรนั้น อยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสเราเพิ่มขึ้นแค่ไหน และอยู่ที่เราจะทำให้ประชาชนได้รับรู้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.ของพรรค ได้ทำงานรับใช้ประชาชน แก้ปัญหาให้ประชาชน ได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญคือ เราต้องทำให้ประชาชน เห็นว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมือง ที่พูดแล้วทำ นโยบายที่เราประกาศไว้ เราได้ทำ และทำได้แล้ว แม้จะไม่ครบทุกเรื่อง ทุกนโยบาย เพราะเราได้ส.ส.มาไม่มากพอที่จะทำทุกนโยบาย แต่ทุกนโยบายที่ทำ เป็นประโยชน์กับประชาชน เช่น นโยบายกัญชาทางการแพทย์ ปลดล็อกกัญชา จากยาเสพติด เป็นพืชเศรษฐกิจ นโยบายช่วยลดภาระลูกหนี้ กยศ. นโยบายลดค่าใช้จ่ายประชาชน ทั้งรถไฟฟ้า และ รถเมล์ ในกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยทำงานเยอะ แต่เราพูดน้อยไป ทำให้ประชาชนไม่ทราบว่า หลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ เป็นผลจากการทำงานของเรา เรื่องนี้ต้องปรับปรุง เพื่อให้ประชาชน เห็นการทำงานของเรา และให้โอกาสเรามากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ได้มอบให้ผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยแต่ละราย รับผิดชอบพื้นที่เขตเลือกตั้ง และประสานงานกับบุคคลที่พรรคจะส่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในแต่ละภาคแล้ว คือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรค รับผิดชอบเอง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค และ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม รองหัวหน้าพรรค เป็นผู้รับผิดชอบ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เป็นผู้รับผิดชอบ, ภาคเหนือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค และ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รับผิดชอบ, ภาคใต้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ , ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน จะดูแลเองในช่วงนี้ แล้วจะพิจารณาหาผู้รับผิดชอบที่เหมาะสม เร็วๆนี้ ซึ่งมีบุคคลเสนอตัวมาแล้วหลายราย โดย คณะผู้บริหารพรรค จะมีการประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามการทำงานของบุคคลที่เสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละท่าน และจะมีการสำรวจความเห็นประชาชนต่อผู้สมัคร และความนิยมในตัวผู้สมัคร เป็นระยะๆ ด้วย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประเมินการทำงาน และ การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เมื่อถึงเวลาลงสมัครรับเลือกตั้ง

ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย เชื่อมั่นว่าด้วยเวลาที่มีอยู่อีก 1 ปี ก่อนจะครบวาระของสภาฯชุดนี้ พรรคภูมิใจไทย มีเวลามากพอสมควรที่จะทำงานหนักมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า เราเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนคาดหวังได้ว่า ถ้ามอบโอกาสให้เราไปทำงาน เราจะทำงานให้เป็นที่พึงพอใจของประชาชน และ เรานำพาประเทศไทยพ้นจากวิกฤติได้ ทั้งปัญหาด้านสุขภาพจากโรคระบาด ปัญหาด้านรายได้ และปัญหาหนี้สิน ซึ่งเราจะนำเสนอแนวคิด แนวนโยบาย และแนวทางของพรรคให้ประชาชนทราบ ต่อไป เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจใช้สิทธิ​เลือกตั้งครั้งหน้า