“ยิ่งลักษณ์” บอกFC คิดถึงประเทศไทย ถาม “บิ๊กตู่” ถ้าเจอหน้ายังคุยได้หรือไม่

“ยิ่งลักษณ์” คุยแฟนคลับโอดคิดถึงประเทศไทย บอกนายกฯ จะเป็นใครต้องถามปชช. ถาม “บิ๊กตู่”เจอหน้า “ยิ่งลักษณ์”  ยังคุยได้หรือไม่ ฝากเพลง ‘เล่าสู่กันฟัง’ ลั่นแม้ทำอะไรไม่ได้ แต่จะอยู่เคียงข้างไม่มีวันลืม

วันที่ 28 ก.พ. 2565 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไลฟ์เฟซบุ๊กคุยกับแฟนคลับ หัวข้อ “เป็นอย่างไรกันบ้างคะ” โดยมี นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ อดีตโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยช่วงหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีต้องออกจากประเทศไทยเกือบ 4 ปี ว่า จะบอกว่าสบายดีคงไม่ใช่เพราะจากบ้านเกิดมาอยู่ว่างงาน ห่างบ้านห่างเมือง ไม่เจอญาติพี่น้องคนรู้จักก็คิดถึง แต่ต้องทำอย่างไรให้อยู่ให้ได้ จำคำสอนของ นายทักษิณ ชินวัตร ว่าต้องรักษาสุขภาพ ทำตัวเองให้มีความสุขเพื่อคนที่รักของเรา ความจริงคือต้องพยายามอยู่ให้ได้ แต่ใจยังรักคิดถึงห่วงใยตลอดเวลา

เมื่อถามว่า ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยบ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ติดตามตลอด แม้ออกมาเกือบ 4 ปี แต่ใจเป็นห่วงประชาชน คอยอ่านข่าวตลอดไม่ว่าจะเรื่องข้างของแพงขึ้นแต่รายได้ประชาชนไม่เพิ่มขึ้น เป็นช่วงลำบากเจอโรคระบาดอีกทำให้เหมือนเป็นการซ้ำเติมรู้ว่าประชาชนไม่มีทางออก ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเพราะอยู่ไกลไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ก็ได้แต่ส่งกำลังใจ หวังว่าอยากให้ทุกคนช่วยกันเข้มแข็งขอร้องรัฐบาลให้ช่วยประชาชนเพราะลำบากกันจริงๆ

เมื่อถามว่า มีคนถามมาว่าอยากเป็นนายกฯอีกสมัยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี้เขาอาจเรียกว่าหมดยุคแล้วหรือไม่ ตอนนี้เป็นรุ่นของรุ่นใหม่แล้ว เด็กรุ่นใหม่มีความสามารถเยอะ และนายกฯต้องอยู่ที่ประชาชน เราจะบอกว่าจะเอาใครเป็นนานยกฯไม่ได้ต้องฟังเสียงประชาชนว่าอยากให้ใครมาบริหารประเทศ ประเทศไทยก็มีคนมีความรู้ความสามารถมาก ไม่ว่าตนจะอยู่สถานะไหน ก็อยากช่วยเหลือประชาชน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศบ้านเกิดมีความรักความผูกพัน ตัวอยู่ที่นี้แต่ใจมีความรักความผูกพันธุ์ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า หากเป็นนายกฯอยู่อยากมีนโยบายอะไรใหม่ๆ บ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นโยบายที่ออกไปแล้วก็อยากสานต่อเช่น รถไฟความเร็วสูง การบริหารจัดการน้ำ และตอนนั้นคิดถึงการวางอนาคตข้างหน้า เช่น เรื่องยุทธศาสตร์จังหวัดกระจายความเจริญไปภูมิภาคต่างๆ แต่สุดท้ายไม่ได้สานต่อ นโยบายที่ทำไว้ เช่นแเท็ปเล็ทพีซี ก็ถูกยกเลิกไปก็เสียดาย

เมื่อถามว่า ตอนเป็นนายกฯหญิงคนแรก ตอนนั้นหนักใจหรือไม่ อีกทั้งตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมยืนข้างหลังอยู่หลายครั้งเช่นตอนดูน้ำท่วม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ฐานะนายกฯไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายก็ยากอยู่แล้ว เพราะเข้ามาในภาวะขัดแย้งช่วงว่างคนรวยคนจนเยอะ อีกทั้งการเป็นรมว.กลาโหม ท้าทายมากที่ต้องทำงานกับเหล่าทัพ ตอนนั้นหนักใจภาษาทหารเป็นอีกอย่างหนึ่ง การทำงานก็ต้องใช้ข้อกฎหมายในการสั่งการอยู่ๆ จะไปสั่งตรงๆ เขาคงไม่ทำ

เมื่อถามว่า ถ้าเจอหน้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังคุยกันได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ย้อนถามว่า “ต้องถามพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าเจอหน้ายิ่งลักษณ์ ยังคุยกันได้หรือไม่”

เมื่อถามว่า คนรุ่นใหม่มีบทบาททางการเมืองมาก มีความเห็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การสนใจการเมืองเป็นเรื่องถูกต้อง คนรุ่นใหม่รักข้อมูลข่าวสารเยอะก็อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปทางที่ดีเพื่ออนาคตของเขา เราฐานะผู้ใหญ่ก็ควรรักฟัง การพูดคุยกับคนรุ่นใหม่เขาต้องการเหตุผลความเข้าใจ การจะคุยต้องใจเย็นอธิบายทีละข้อผู้ใหญ่ต้องให้โอกาสเยาวชนแลกเปลี่ยนพูดจาทำความเข้าใจให้มากที่สุดให้เยาวชนมีส่วนร่วมเปิดพื้นที่ให้กับเยาวชน

“วันนี้ไม่อยู่บ้านเกิดเกือบ 4 ปี เป็นธรรมดาที่ต้องคิดถึงกัน อยากจะบอกตามเพลงเล่าสู่กันฟังว่า ไม่ว่าฝนตกที่ไหนคนทางนี้ก็อยากรู้เรื่องราว พี่น้องประชาชนลำบากคนทางนี้ก็เป็นห่วง มีอะไรก็อยากให้เล่าสู่กันฟัง แม้จะทำอะไรไม่ได้แต่กำลังใจ หรือการอยู่เคียงข้างจะไม่มีวันลืม ขอให้ประชาชนอดทุนรักษาสุขภาพให้ดีวันหนึ่งเชื่อว่าความอดทนความเข้มแข็งจะประสบความสำเร็จได้เจอแต่สิ่งดี หวังว่าวันหนึ่งประเทศไทยจะได้ลืมตาอ้าปากประชาชนมีรายได้ที่ดี” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว