เลขาฯสมช. ยันไม่กลับไปล็อกดาวน์ หวังยอดผู้ติดเชื้อลด ให้คนฉลองสงกรานต์ได้

เลขาฯสมช. ลั่นไม่กลับไปล็อกดาวน์จนกว่าถึงที่สุด นายกฯสั่งยกระดับ hi-ci โรงพยาบาลสนาม หวังเดือน มี.ค.ยอดผู้ติดเชื้อลด ชี้สงกรานต์กลับบ้านได้

วันที่ 24 ก.พ.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ให้สัมภาษณ์ กรณีคณะรัฐมนตรี มีมติชะลอการปรับรูปแบบยูเซปโควิดออกไปว่า เรื่องนี้รอให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ชี้แจง ส่วนที่มีข้อสังเกตการจะปรับเงื่อนไขยูเซป มีส่วนเกี่ยวข้องกับงบประมาณนั้น เรื่องงบประมาณดูแลโควิดเราพิจารณาในภาพรวม แม้จะโหลดแต่ถ้าจำเป็นก็ต้องดำเนินการเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาในภาพรวม ให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายกฯเองก็ไม่ได้กำชับอะไรในส่วนนี้เป็นพิเศษ เพียงแต่ให้ทบทวนดูรายละเอียดให้รอบคอบและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ

เมื่อถามว่าตัวเลขผู้ป่วยที่สูงขึ้นมากในขณะนี้มีมาตรการรองรับอย่างไร พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า เรามีมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่องและยุทธศาสตร์แก้โควิดเราก็พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเปิดให้ประชาชนได้กลับมาประกอบอาชีพ เพื่อให้เศรษฐกิจได้เดินหน้า แนวทางที่จะกลับไปล็อคดาวน์เหมือนช่วงแรกคงทำได้ยากยกเว้นจำเป็นอย่างที่สุดซึ่งตนคาดว่าจะไม่เกิด ฉะนั้นการปรับการแก้ไขคือเราต้องปรับตัวในทุกส่วนทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการดำเนินชีวิตแบบป้องกันให้เราอยู่กับโควิดให้ได้

อีกทั้งนายกฯยังสั่งให้แต่ละพากส่วนเข้าไปดูแลจุดที่เป็นคลัสเตอร์ต่างๆแบบละเอียดก็เชื่อว่าตัวเลขจะลดลง เมื่อถามว่ามีการเตรียมมาตรการหากผู้ติดเชื้อรายวันถึงแสนคนหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าว “มีครับ ตัวเลขการครองเตียง การติดเชื้อจะถูกประเมินทุกวันทำคู่ขนานเป็นเปอร์เซ็นต์ขยับไปเรื่อยๆ แต่กว่าจะไปถึงสถานการณ์ตอนนั้นต้องมีมาตรการมากกว่านี้ เราคงไม่ได้สร้างโรงพยาบาลสนามรองรับคนเป็นแสนแน่ๆกระทรวงสาธารณสุขคิดต่อเนื่องอยู่แล้ว

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่าที่นายกฯสั่งการคือให้เราเตรียมแผนรองรับ โดยเฉพาะการยกระดับ ระบบการรักษาตัวที่บ้าน (hi) และศูนย์พักคอยในชุมชน(ci) ฮอสพิเทล โรงพยายานสนาม ซึ่งมีข้อขัดข้องบ้างเราก็แก้ไข ในส่วนของโรงพยาบาลหลักนั้นเราอยากให้ใช้รับรองผู้ป่วยที่อาการหน้าเป็นห่วงหรืออาการสีแดงให้ได้เข้าไปรักษา รวมถึงต้องกันไว้สำหรับโรคอื่นๆด้วย และต้องไม่กระทบกับบุคลากรสาธารณสุขที่เราต้องสงวนไว้แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนน รวมถึงให้หน่วยงานต่างๆทั้ง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กทม. และพื้นที่ต่างๆเพิ่มคู่สายของแต่ละหน่วยงาน

เมื่อถามว่าผู้ติดเชื้อทุกคนอยากรักษาตัวที่โรงพยาบาลเช่นนี้แล้วจะทำความเข้าในกับประชาชนอย่าง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เราจะยกระดับเรื่องการคัดกรองตามช่องทางต่างๆ หากแพทย์คัดกรองว่าแต่คนเป็นผู้ป่วยระดับไหนก็ควรให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม แต่สำหรับผู้มีลักษณะเปราะบางอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ และเข้าถึงการสื่อสารลำบาก กลุ่มไร้ที่อยู่อาศัย รัฐจะเข้าไปจัดการด้วยระบบ ci และสิ่งสำคัญประชาชนต้องเข้าใจเราต้องเซฟโรงพยาบาลหลักไว้ดูแลผู้ป่วยหนักจากโควิดและจากโรคอื่นๆ

เมื่อถามว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อขาขึ้นที่เป็นอยู่นี้จะยืดเยื้อไปถึงช่วงสงกรานต์หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เราคาดหวังว่าเดือนมี.ค.ผู้ป่วยจะค่อยๆลดลง และหวังว่าช่วงสงกรานต์เราจะได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงกับสงกรานต์ปกติมากที่สุดแต่คงเป็นปกติเหมือนช่วงก่อนมีโควิดไม่ได้ คงต้องเป็นสงกรานต์แบบโควิดซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุขกำลังพิจารณาเรื่องนี้คาดว่า 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าจะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือแล้วแจ้งประชาชนให้ทราบ

อย่างไรก็ตามช่วงสงกรานต์ปีนี้เราไม่ได้จำกัดการเดินทางประชาชนสามารถไปดูแลบุพการีได้ด้วยความระมัดระวังและตามมาตรการที่เหมาะสม ทำบุญได้แต่การฉลองในที่เสี่ยงก็ต้องงด ซึ่งมาตรการน่าจะเป็นเช่นนี้