นายกฯ ส่ง รองโฆษกรัฐบาล ลุยชายแดนใต้ขับเคลื่อนงาน ส่งเสริมบทบาทสตรี

นายกฯ มอบนโยบายขับเคลื่อนงานด้านสตรี ส่ง“รัชดา ธนาดิเรก” รองโฆษกรัฐบาล เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ลุยจังหวัดชายแดนใต้ ส่งเสริมให้ผู้หญิงเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา

วันที่ 16 ก.พ. 2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ด้านประสานการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ อ.เมือง อ.ปะนาเระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี, อ.จะนะ จ.สงขลา, อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจาก คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการด้านเด็กและสตรี (ศป.ดส.) นักวิจัย เครือข่ายภาคประชาสังคม ผู้นำท้องที่และท้องถิ่น เกี่ยวกับการขับเคลื่อนงานด้านสตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำการทำงานของภาครัฐต้องให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะการกำหนดยุทธศาสตร์ของสตรี ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมให้ผู้หญิงเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างสูงสุด ภายใต้แนวทางที่สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมของพื้นที่ และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทั้งพุทธและมุสลิมในทุกมิติ

ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและสร้างการมีส่วนร่วมจากพลังสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ระยะ 6 ปี) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมี กลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายการปฏิบัติงานด้านสตรี 64 องค์กร ร่วมหารือให้ความคิดเห็น และเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

ขณะเดียวกัน กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมต่อยอดการเสริมบทบาทผู้หญิงและความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยจะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมพลังสตรี ระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ. 2565 ที่ จ.ปัตตานี แก่กลุ่มเครือข่ายสตรีในจังหวัดชายแดนใต้ เน้นให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิและโอกาสในการเข้าถึงสิทธิ รวมถึงแนวทางและช่องทางการให้ความช่วยเหลือให้กับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสตรีในพื้นที่ เพื่อให้สตรีเป็นพลังในการพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคม อีกทั้งจะมีการอบรมเรื่องการเขียนโครงการและจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ (Gender Responsive Budgeting : GRB) ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม. ที่เห็นชอบเมื่อ ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรมและเหมาะสมตามความจําเพาะของผู้หญิง ซึ่งการผลักดันโครงการทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ตอบสนองต่อความต้องการกลุ่มสตรี จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ

น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่รับฟังข้อมูล พบการขับเคลื่อนของหลายภาคส่วนในการส่งเสริมบทบาทสตรีในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้หญิงเพิ่มมากขึ้นอย่างมากในการมีส่วนร่วมในงานด้านการพัฒนาและการช่วยเหลือสังคม แต่ยังคงมีจำนวนน้อยที่มีตำแหน่งระดับกำหนดนโยบายหรือตัดสินใจ ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จึงให้นโยบายในการขับเคลื่อนงานด้านสตรี นอกจากส่งเสริมการสร้างรายได้ สุขภาวะผู้หญิง ความเท่าเทียมระหว่างเพศแล้ว ยังต้องจัดสรรงบประมาณที่เน้นการพัฒนาศักยภาพผู้หญิง เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมทางการเมือง การบริหารและการตัดสินใจในทุกระดับ รวมถึงการสร้างทัศนคติยอมรับสิทธิและบทบาทผู้หญิงด้วย.