“แรมโบ้” ทิ้ง พปชร. ขอเคียงข้าง “บิ๊กตู่” ลั่นเป็น “หัวหมา ดีกว่าหางราชสีห์”

“แรมโบ้”ประกาศลั่นเคียงข้าง “ลุงตู่” ไม่เดียวดายแน่นอน ย้ำ”รวมไทยสร้างชาติ”เป็นทางเลือกใหม่ให้”ลุงตู่”พิจารณา หลังถูกบางคนบางพรรคกดดัน ชี้ขอเป็น “หัวหมา ดีกว่าหางราชสีห์”

วันที่ 7 ก.พ. 2565 จากกรณีมีกระแสข่าว “แรมโบ้” หรือ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดย นายเสกสกล ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกจับตามองว่า เป็นพรรคสำรองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

ล่าสุด นายเสกสกล ได้ยอมรับว่า ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)จริง เพื่อไปทำการเมืองในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะตนจดทะเบียนพรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็นปีแล้ว ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหา ซึ่งคำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชอบและตั้งคำนี้ขึ้นมาเอง จะมีการตั้งสาขาและหาสมาชิก แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นไปตามระเบียบทุกอย่าง ซึ่งเดือนมี.ค.นี้ จะมีการประชุมใหญ่และเปิดตัวผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มีประวัติดี โปรไฟล์ดี

พรรครวมไทยสร้างชาติ จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไป และคิดว่าอนาคตการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน หากพรรคพลังประชารัฐ มีปัญหาก็จะได้มีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่ให้นายกฯ ได้พิจารณา และพรรคนี้ถือว่า เป็นพรรคที่มีความชัดเจนในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และที่สำคัญเป็นการเดินตามแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนในฐานะเป็นผู้ก่อตั้งก็ได้ประกาศไว้ว่า พรรครวมไทยจะสร้างชาติ จะเป็นพรรคที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะมีพรรคพลังประชารัฐหรือไม่

“นี่ถือจุดยืนของผม และพร้อมทำงานร่วมกับพรรคอื่นๆ ที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ถือเป็นพรรคที่เป็นทางเลือกหนึ่งให้นายกฯ ถ้าคิดว่าพรรคที่อยู่ไม่มีความสุข ผมไม่ต้องการให้นักการเมืองบางคน รุ่นเก่าๆ หรือ พรรคเดียวมาบีบ หรือ กดดันนายกฯ วางแผนเล่นเกมการเมืองกับนายกฯตลอดเวลา อย่าคิดว่าคนอย่างนายกฯ ไม่มีที่ไปหรือไม่มีที่ยืน ยังมีพรรคการเมืองใหม่อีกหลายพรรคที่พร้อมสนับสนุนนายกฯ ผมในฐานะที่อยู่เคียงข้างนายกฯมาตลอดจะไม่ยอมให้นายกฯ โดดเดี่ยวเดียวดายแน่นอน” นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า สำหรับพรรคพลังประชารัฐที่ตนลาออกมานั้น ปกติก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมใดๆอยู่แล้ว และเขาก็ไม่เคยเรียกใช้ตนอยู่แล้ว ดังนั้นตนก็ต้องหาทางของตน ในการหาพรรคการเมืองใหม่และยึดคติที่ว่า “เป็นหัวหมา ดีกว่าเป็นหางราชสีห์” ทำพรรคเอง เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ และคนรุ่นใหม่ เยาวชนทั้งหลาย อดีตนักการเมืองรุ่นเก่า รุ่นใหม่ มาช่วยกันสร้างพรรคให้เป็นประโยชน์แต่ต้องเป็นคนดี ภาพพจน์ดีไม่มีสีเทาหรือประวัติด่างพร้อย และต่อข้อถามว่า ในพรรคพลังประชารัฐ จะมีคนอื่นๆออกมาตามมาอีกหรือไม่ นายเกสกล กล่าวว่า มีแน่นอน ตอนนี้หลายคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็มั่นใจว่าจะออกมาอีกหลายคนแน่นอน