“อนุทิน-ศักดิ์สยาม” เช็กความพร้อม “สนามบินเบตง” ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ภายใน ก.พ.65นี้ เตรียมเชิญ “บิ๊กตู่” เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ พร้อมลุยถกทุกภาคส่วน เพื่อขจัดอุปสรรคทุกด้าน ให้สามารถเปิดบินได้ทั้งระบบ
วันที่ 5 ก.พ. 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเดินทางพร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจราชการ ติดตามการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา ว่านายอนุทินได้นำเครื่องบินส่วนตัว มาทดสอบการบินเพื่อให้เห็นว่าท่าอากาศยานนานาชาติเบตง ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายจะพัฒนาพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ สร้างความมั่นคงและความเจริญด้วย ซึ่งได้รับข้อสั่งการ ให้มาทดสอบเพื่อเป็นการยืนยันให้กับประชาชน สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ และชาวเบตงจะเห็นได้ว่าสนามบินแห่งนี้ สามารถเปิดให้บริการได้
ที่ผ่านมาได้ตรวจสอบความพร้อมแล้ว จากบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (จำกัด) หรือ บวท. กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) วันนี้เพื่อพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดนโยบายไว้ ได้แปลมาสู่การปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบและจากการทดสอบในวันนี้เป็นเครื่องบินส่วนตัวใช้ระยะเวลาทำการบินประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ขณะที่เครื่องบินใบพัด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จากสนามบินดอนเมือง-สนามบินเบตง ซึ่งจากการทดสอบเรายังบินอยู่ในประเทศ ไม่ล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การทดสอบบินมาที่สนามบินเบตง เพื่อตรวจสอบทางกายภาพถึงความพร้อมในการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมความพร้อมให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจะเชิญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เดินทางมาเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ที่ สนามบินเบตงด้วย โดยที่ผ่านมามีการประชุมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทย. กพท.บวท.,นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา,ตัวแทนสายการบินนกแอร์,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดยะลา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเบตง สายการบินและผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้เพื่อที่จะหารือว่าเราจะสามารถให้บริการบินในเชิงพาณิชย์ได้อย่างไร ซึ่งทั้งหมดจะต้องมาคุยกันหากจำนวนผู้โดยสารมีปริมาณที่เหมาะสม ค่าโดยสารจะเป็นอย่างไร นั้นหมายความว่าทั้งหมดจะสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้ ขณะเดียวกันได้วางกำหนดการเปิดให้บริการไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 จะเรียนเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ที่ท่าอากาศยานเบตงแห่งนี้อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้มีผลการประชุมหารือ 1.กำหนดให้ท่าอากาศยานเบตง เตรียมความพร้อมทางด้านกายภาพและสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับการเปิดให้บริการพร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการทำการบินผ่านมาตรการการลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยานและค่าจอดอากาศยาน รวมไปถึงการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้การสนับสนุนให้สายการบินสามารถดำเนินการบินได้อย่างต่อเนื่อง และ 2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุน ผลักดันกิจกรรมในการเดินทาง และการท่องเที่ยว เช่น อัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม การลดค่าธรรมเนียม จัดตั้งศูนย์จัดจำหน่ายสินค้า OTOP และความพร้อมในการรองรับคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการทางสาธารณสุข เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกขั้นตอนการเดินทางของท่าอากาศยาน
“ปัจจัยที่หารือเพิ่มเติม คือเรื่องอัตราค่าโดยสาร เนื่องจากต้องเข้าใจว่าสายการบินซึ่งเป็นบริษัทเอกชนเวลาที่ประกอบการก็ต้องดูว่าเขาสามารถที่จะดินหน้าได้ วันนี้จะต้องดูได้ว่าถ้าจำนวนผู้โดยสารแค่ไหน ต้องนำเข้าสมการเพื่อที่จะดูว่าอัตราค่าโดยสารจะเป็นอย่างไร ให้เขาสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้ รวมถึงภาคเอกชนภาคประชาชนที่อยู่ที่นี่สามารถรองรับได้ ส่วนกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้ ทย.บทว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าสามารถที่จะลดค่าอัตราค่าบริการได้อย่างไร เพื่อที่จะทำให้ภาระของสายการบินลดลงและสามารถทำให้อัตราค่าโดยสารอยู่ในอัตราที่เหมาะสม”นายศักดิ์สยาม กล่าว
สำหรับท่าอากาศยานเบตง มีศักยภาพของอาคารที่พักผู้โดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 300 คน ต่อชั่วโมง หรือ 8 แสนคนต่อปี มีสถาปัตยกรรมตกแต่งด้วยไม่ไผ่สวยงามสะท้อนถึงเอกลักษณ์ท้องถิ่น มีความยาวทางวิ่ง ขนาด 30×1,800 เมตร ลานจอดอากาศยานสามารถรองรับเครื่องบินขนาดไม่เกิน 80 ที่นั่ง ได้จำนวน 3 ลำ ในเวลาเดียวกัน และลานจอดรถยนต์สามารถจอดรถยนต์ได้ 140 คัน
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า สนามบินเบตง มีความพร้อมให้บริการระบบการปฎิบัติการ ถือว่าที่ผ่านมาได้มีการเปิดให้บริการแล้ว ขณะนี้อยู่ในระยะที่ต้องหารือกับสายการบินพาณิชย์จะทำอย่างไร ให้สามารถจัดเที่ยวบินมาให้บริการประชาชนได้มากที่สุด ซึ่งต้องหารือกับผู้ประกอบการ สมาคมท่องเที่ยวในจังหวัดยะลาและเบตง เพื่อที่จะทำให้สายการบินพาณิชย์ ได้มีความมั่นใจและสามารถมาเปิดให้บริการได้ ซึ่งหลังจากได้มีการประชุมกันทุกฝ่าย ได้มีความเห็นพ้องต้องกันว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการมากกว่าที่ได้ประมาณการไว้
“สายการบินนกแอร์ ได้ขอให้พิจารณาเรื่องของความช่วยเหลือต่างๆในระยะแรก โดยขอให้มองสนามบินเบตงซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติอยู่แล้ว ให้เป็นฮับในการเดินทางระหว่างภูมิภาคสามารถเชื่อมไปยังมาเลเซีย,สิงคโปร์ ได้ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งมองว่าจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคมจะเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว”นายอนุทิน กล่าว
