รองหน.พรรคพปชร. ตั้งโต๊ะ แจงยิบปมตะเพิด “ร.อ.ธรรมนัส -20ส.ส.” ขู่บีบปรับโครงสร้างพปชร. ชี้เป็นจุดแตกหักต้องตัดสินใจ ซัดเคลื่อนไหวกระทบความมั่นคงพรรคร้ายแรง มั่นใจเก้าอี้ “บิ๊กตู่” มั่นคง
วันที่ 20 ม.ค. 2565 ที่ รัฐสภานายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ฝ่ายกฎหมาย แถลงถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐมีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพปชร. พร้อมด้วย ส.ส. รวมเป็น 21 คน ออกจากพรรคเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า การประชุมเกิดขึ้นเนื่องจากมีสมาชิก นำโดย ร.อ.ธรรมนัส เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ให้มีการปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ ถ้าไม่ปรับจะเคลื่อนไหวให้เกิดความเสียหาย ซึ่งหัวหน้าพรรคเห็นว่าข้อเรียกร้องจะสร้างปัญหาเกรงจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่จึงนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) และส.ส.ของพรรคหารือถึงข้อเรียกร้องขอร.อ.ธรรมนัส ซึ่งที่ประชุมร่วมกก.บห.และส.ส. จำนวน 78 คน ประกอบด้วย กก.บห. 17 คน และส.ส. 61 คนเห็นว่าข้อเรียกร้องร้องดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากจะเป็นความเสียหายทั้งระบบ
ฉะนั้น เพื่อรักษาหลักการในเรื่องความมีเสถียรภาพและความเป็นเอกภาพ พรรคเห็นว่าข้อเสนอนี้เป็นเหตุที่ร้ายแรง เข้ากับข้อบังคับของพรรค ข้อที่ 54(5) ประกอบวรรคท้าย มีเหตุร้ายแรง จึงมีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส และส.ส.กลุ่มดังกล่าว ด้วยเสียง 63เสียง ซึ่งถือว่าเกิน 3 ใน4 ของที่ประชุมร่วมสมาชิกทั้งหมด ขั้นตอนต่อไปทางพรรคจะได้มีการจัดตรียมเอกสารเพื่อแจ้งไปยังกกต. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานะทั้ง 21คน ยังเป็น ส.ส. ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ แต่จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101 (9)
“ข้อเรียกร้องของร.อ.ธรรมนัส ให้ปรับโครงสร้างพรรค เป็นการเคลื่อนไหวที่ร้ายแรง เพราะระบุว่าถ้าไม่ได้ตามข้อเรียกร้องก็ไม่ยอม ขัดต่อความมั่นคง เสถียรภาพ เอกภาพในพรรค ถือเป็นจุดแตกหักที่ต้องตัดสินใจ ซึ่งสมาชิกพรรคส่วนใหญ่เลือกรักษาเสถียรภาพของพรรคไว้เพราะเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกเกินการเยียวยาแล้ว และจะทำให้พรรคเป็นสถาบันทำให้พรรคดีขึ้นแน่นอน ส่วนอนาคตของทั้ง 21 คน จะสามารถร่วมงานกับพรรคได้อีกหรือไม่นั้น ขอให้ไปถามร.อ.ธรรมนัส เอง ไม่สามารถตอบแทนได้”นายไพบูลย์ กล่าว.