“ศุภชัย ใจสมุทร” ย้ำ ปลูกกัญชาไม่ผิดกฎหมาย ลั่นใครถูกจับ โทรหาภูมิใจไทยได้เลย อัดเจ้าหน้าที่รัฐปรับทัศนคติใหม่ ดลิกใช้กฎหมายเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาจับชาวบ้าน
วันที่ 10 ม.ค. 2565 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวในเรื่อง “กัญชาถูกกฎหมาย ทำไมยังถูกจับ” ตอนหนึ่ง ถึงการที่มีประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 มีการประกาศใช้บังคับ ส่งผลให้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ในมาตรา 7 ที่กำหนดให้ “กัญชา” เป็นยาเสพติด ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังมีประชาชนถูกจับอยู่ โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา มีคนมาบอกว่าชาวบ้านปลูกกัญชา 2 ต้น ตำรวจบอกว่าจะดำเนินคดีให้ได้
นายศุภชัย ระบุเพิ่มว่า ได้ถามตำรวจที่จับกุมว่า รู้ไหมประมวลกฎหมายกัญชาบังคับใช้แล้ว เขาบอกไม่ทราบ และเขาเเจ้งว่าใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 จับ แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบว่ามีกฎหมาย ประมวลยาเสพติด ออกมาแล้ว แต่ยังใช้กฎหมายเก่าจับกุมอยู่ จึงไม่มีอำนาจจับ
ส่วนบางท่านบอกว่าทราบว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้ แต่เห็นว่ากัญชา ยังไม่ถูกยกเลิกว่าเป็นยาเสพติดประเภท 5 เว้นเเต่รัฐมนตรีประกาศว่าไม่เป็นยาเสพติด ดังนั้นรัฐมนตรีต้องประกาศมาก่อนว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ซึ่งเห็นว่าท่านตีความอย่างขยาย โดยท่านไม่ดูว่าหลักการตีความทางอาญานั้น ต้องตีความโดยเคร่งครัด เเละต้องตีความตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
“ขอฝากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมให้คุยกัน ว่าจะเอาอย่างไรกับกัญชา ขยันไปจับต้นสองต้นไปทำไม ท่านไปดูประมวลยาเสพติด มีข้อความอันใด ที่ระบุกัญชาเป็นยาเสพติด มีการเขียนเอาไว้บ้างไหม มีโทษเท่าไหร่ ซึ่งไม่ได้เขียนไว้เลย วันนี้ท่านจับก็ต้องไปดู หากอ้างกฎหมายเก่าที่ไม่มีแล้ว ตัวท่านจะผิด เพราะมันไม่มีอำนาจไปจับแล้ว”
วันนี้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ปลดกัญชาจากประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 29 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ที่ระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ท่านสามารถปลูกและใช้ประโยชน์จากกัญชาได้ หากท่านถูกดำเนินคดี ทางพรรคภูมิใจไทยยินดีส่งทนายความไปช่วย ดูแลในคดีให้กับท่าน โดยสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ 02-940-6999 ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐต้องปรับทัศนคติกันใหม่เสียที ขอย้ำว่ากัญชาสามารถปลูกได้ ตนเป็นคนออกกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ หรือตำรวจจะจับท่าน ให้บอกว่าไปเปิดประมวลกฎหมายอาญาเสพติด ถ้ามีจับตนไปเลย
