“อลงกรณ์”นำคณะ ลุย เมืองชุมพร ช่วย “อิสรพงษ์” ชู4นโยบาย สู้ศึกลต.ซ่อม

“อลงกรณ์” ควงแขน “นราพัฒน์” ลงพื้นที่ หาเสียงช่วย ”อิสรพงษ์” เลือกตั้งซ่อม สส.เขต1ชุมพร ชู 4 นโยบายปั้น ชุมพร เป็นมหานครผลไม้ ฮับกาแฟ ประตูการค้าท่องเที่ยว เกตเวย์ทะเลใต้

วันที่ 9 ม.ค.2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหน.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคปชป. พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร นางสาวบุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี และ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครหมายเลข 1พร้อมทีมงานพรรคปชป.ชุมพร เดินหน้าหาเสียงในเขตอำเภอเมือง และ อำเภอสวี โดยสักการะศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และ พระบรมธาตุสวี ระหว่างการลงพื้นที่พบวิสาหกิจชุมชนถ้ำสิงห์ และ ร้านกาแฟถ้ำสิงห์เขามัทซี ซึ่งเป็นกลุ่มผลิต และ จำหน่ายกาแฟโรบัสต้า กลุ่มประมงหาดทรายรีชุมพร กลุ่มผู้ประกอบการผลไม้ในอำเภอสวี ก่อนปราศรัยย่อยในเขตเทศบาลเมืองโดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า ชุมพรเป็นจังหวัดที่มีอนาคต เพราะมีศักยภาพสูง ทั้งด้านการเกษตรการค้าการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมแปรรูป ในอดีตมีการพัฒนาเมืองพัฒนาเศรษฐกิจ จนชาวชุมพรมีรายได้ต่อหัว 230,000บาทต่อปี สูงเป็นอันดับ15ของประเทศ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์-ทันสมัยภายใต้การนำของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หน.พรรคปชป. และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค มั่นใจว่า ชุมพร สามารถต่อยอดศักยภาพเดิม เพิ่มศักยภาพใหม่เ พิ่มรายได้ต่อหัวของประชาชน สู่จังหวัดท็อปเทนของประเทศ ด้วย 4 นโยบายเศรษฐกิจและการพัฒนา

1.นโยบายมหานครผลไม้ของภาคใต้เช่นเดียวกับจันทบุรีในภาคตะวันออก ปี2564เพียง10เดือนเราส่งออกผลไม้คิดเป็นมูลค่าเกือบ1.5แสนล้านสูงสุดในประวัติศาสตร์เป็นผลไม้จากภาคใต้และภาคตะวันออกเป็นส่วนใหญ่ 2.ฮับกาแฟโรบัสต้าอันดับหนึ่งของประเทศเพื่อสร้างแบรนด์สร้างมูลค่ากาแฟโรบัสต้าที่ชุมพรผลิตได้มากเป็นอันดับ1สู่กาแฟมูลค่าสูงทั้งตลาดในและต่างประเทศ 3.ประตูท่องเที่ยวเกตเวย์ทะเลใต้ ชุมพรเป็นประตูสู่ภาคใต้และยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางทะเลมีสนามบินมีท่าเรือบริการเชื่อมเกาะและหมู่เกาะในอ่าวไทยเช่นเกาะสมุยและหมู่เกาะอ่างทองโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติชุมพรมีเกาะกว่า40เกาะ เช่นเกาะทะลุ เกาะงามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะลังกาจิว ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ และ 4.สะพานเศรษฐกิจ”ชุมพร-ระนอง”เชื่อม”อ่าวไทย-อันดามัน”เพื่อขยายฐานเศรษฐกิจการค้าไปสู่ประเทศด้านทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล7ประเทศคือเมียนมาร์ บังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย มาเลเซียและไทย โดยมีท่าเรือระนองเป็นฐานฝั่งอันดามันและชุมพรเป็นฐานด้านอ่าวไทย

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวต้องผนึกพลังกับองค์กรปกครองท้องถิ่นเช่น อบจ.ชุมพรและทุกภาคีภาคส่วน โดยเฉพาะพลังคนรุ่นใหม่ เช่น นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครหมายเลข 1 เป็นคนที่มีความรู้มีโลกทัศน์ผ่านการศึกษาทั้งในและต่างประเทศเข้าใจถึงวิสัยทัศน์อนาคตและมีประสบการณ์ด้านการบริหาร จะเป็นกำลังสำคัญของจังหวัดชุมพรและประเทศชาติ จึงขอโอกาสจากชาวชุมพรเลือกเป็นส.ส.เขต1ในวันที่16 ม.ค.นี้เช่นเดียวกับที่เคยให้โอกาสอดีต ส.ส.ชุมพล จุลใส มาแล้ว

พรรคประชาธิปัตย์ ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในการบริหารประเทศ2ปีกว่าที่ผ่านมาสามารถขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้พืชเศรษฐกิจ 5ชนิดได้แก่ยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วและช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร8ล้านครัวเรือนๆละ1.5หมื่นบาทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19อย่างฉับไวจนไม่มีคำปรามาสในอดีตที่ว่าประชาธิปัตย์ดีแต่พูดหรือเชื่องช้า และยังเป็นหลักของรัฐบาลในการสร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศกว่า8ล้านล้านบาทจากการส่งออกที่เติบโต16%เกินเป้าหมายที่รัฐบาลเคยกำหนดไว้ที่4%ถึง4เท่าตัวและยังผลักดันการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนตามสถิติ  9 เดือน ม.ค.-ก.ย.2564 สามารถส่งออกได้ถึง 778,367 ล้านบาท ขยายตัว 38.06% โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเป็นแชมป์การส่งออกแม้จะเผขิญกับวิกกฤติการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจนผลโพลของประชาชนยกให้รัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรกับกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีผลงานเป็นที่ชื่นชอบอันดับ1ของประเทศซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนการทำงานยุคใหม่ทำได้ไวทำได้จริงเราทำได้ของพรรคประชาธิปัตย์

ด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคปชป. ภาคเหนือกล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นวิถีทางประชาธิปไตยของประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชน อย่ายอมให้ใครมาบีบบังคับด้วยอำนาจบาตรใหญ่ขอให้เชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน และขอให้เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวเป็นกลางและเที่ยงธรรมเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง