“นิพนธ์” ตระเวน ขอบคุณ จนท.ดูแล ปชช. ช่วงปีใหม่ พอใจยอดอุบัติเหตุ ลดลง

รมช.มหาดไทย ตระเวนขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ช่วยดูแลประชาชน ในเทศบาลปีใหม่ พอใจอุบัติเหตุ และผู้เสียชีวิต ลดลงตามเป้า

วันที่ 8 ม.ค.2564 เวลา 09.30 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจบูรณาการร่วม ในมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 พร้อมมอบสิ่งของ น้ำดื่มและหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในบริเวณจุดตรวจทางหลวงหมายเลข 41 กม. ที่ 233+800 ต.เขานิพันธ์ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปภ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ อสม. อส.และจิตอาสาร่วมต้อนรับนายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจทุกท่าน และถือโอกาสนี้ นำความห่วงใยและความปรารถนาดีจากคณะรัฐมนตรีทุกท่าน เพื่อมาขอบคุณและเป็นกำลังใจกับทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละที่ช่วยว่าดูแลความปลอดภัยทางถนนให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่องเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง และทำให้สถิติการเสียชีวิตบนท้องถนนลดลดปีนี้ลดลง 15 % ตนเชื่อมั่นว่าถ้าเรารักษามาตราฐานนี้ไว้ เป้าหมายในการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศให้เหลือ 12 คน ต่อประชากรหนึ่งแสนภายในปี พ.ศ. 2570 เราสามารถทำได้อย่างแน่นอน ถ้าประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง คือ ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย“ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความเสียสละ โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันและลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด และขอให้นำมาตรการการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ นำมาลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยอื่นๆ ในช่วงเทศกาลอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนตลอดทั้งปี ควบคู่กับการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง” รมช.มหาดไทย กล่าว