สภาฯ ล่มซ้ำซาก ส.ส.ไม่เข้าห้องประชุม ภท.โฉุนตอนยังไม่เป็นส.ส.แย่งกัน แต่พอมาเป็นส.ส.กลับขี้เกียจ กินเงินเดือน ปชช.แต่ไม่ยอมทำงาน ไล่ตะเพิดถ้าลาครบ 4 ครั้งพ้นสมาชิกภาพไปเลย ขณะ”รังสิมา”ฉะ “จุลพันธ์” องค์ประชุมเป็นหน้าที่ร่วมกัน ไม่ใช่ ฝั่งรัฐบาล ฝ่ายเดียว
วันที่ 17 ธ.ค.2564 เวลา 10.40 น. ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังให้สมาชิกหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่แล้วเสร็จ จากนั้นเข้าสู่ระเบียบวาระนายศุภชัย ได้ขอมติ เรื่อง รายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบที่มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานกมธ. เนื่องจากมีสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จากนั้น 10.49 น. นายศุภชัย ได้กดออดเรียกสมาชิกเข้ามาเสียบบัตรแสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม เป็นเวลา 2 นาที
ทั้งนี้ ระหว่างรอสมาชิก นายศุภชัย กดออดเรียกสมาชิกอยู่หลายครั้ง และขอให้รีบเข้าห้องประชุม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงจำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุมก่อนนำส่งให้รัฐบาล แต่นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลุกขึ้นกล่าวตำหนิ ส.ส. ว่า เวลาที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ก็อยากจะแย่งกันเป็น แต่พอมาเป็น ส.ส. ก็ขี้เกียจไม่มาประชุม อ้างเหตุลาประชุมพร้อมเสนอถ้าลาครบ 4 ครั้งให้พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ไปเลย อยากเป็น ส.ส. แต่ไม่มาประชุม ตนขอตำหนิ ส.ส.พวกนี้ ประชาชนอย่าไปเลือก เข้ามากินเงินเดือนแต่ไม่ยอมทำหน้าที่
ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อา พรรค พปชร. ฐานะเลขาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ขอเวลาเพื่อให้สมาชิกได้เข้าห้องประชุมทำให้นายศุภชัย กล่าวขึ้นว่า “หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ล่มอีก อายชาวบ้านจากการเช็คชื่อประชุมมีทั้งหมด 260 คน หาก ส.ส. ที่อยู่ในห้องประชุมช่วยกดบัตรตรวจสอบองค์ประชุม ช่วยๆ กันครบแน่ๆทั้งนี้ ส.ส. มาประชุมครบองค์ประชุมแต่บางครั้ง ส.ส. แสดงความจำนงไม่เช็คองค์ประชุมให้ ถือเป็นสิทธิของส.ส.”
จากนั้น นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุม ส่วนองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของส.ส.รัฐบาล ทำให้นายศุภชัย ตอบกลับว่า ในข้อบังคับการประชุมไม่ระบุว่าองค์ประชุมเป็นของฝ่ายใด ดังนั้นถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของ ส.ส. ทุกคน ก่อนที่นายศุภชัย ได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที
ต่อมาเวลา 11.25 น. สภาฯกลับมาเปิดประชุมอีกครั้ง โดยนายศุภชัย กดออดเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุม น.ส.รังสิมา รอดรัศมีส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอให้เช็คองค์ประชุมแบบขานชื่อ ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย (พท.) ลุกขึ้นสนับสนุนพร้อมกล่าวว่า การรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของ ส.ส. ฝั่งรัฐบาล ทำให้ น.ส.รังสิมา ลุกขึ้นอีกครั้งว่าตนรู้สึกไม่สบายใจที่นายจุลพันธ์ เห็นว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของ ส.ส. รัฐบาลเท่านั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะความจริงการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของ ส.ส. ทุกคน ทุกฝ่าย
ต่อมา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรค พท. ลุกขึ้นโต้ว่า อยากให้น.ส.รังสิมา นึกถึงตอนที่เป็นฝ่ายค้าน และพรรค พท.เป็นฝ่ายรัฐบาลในเวลานั้นพรรค พท. โดนฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมวันละ 5 ครั้ง ดังนั้นเรื่องวอล์กเอ้าท์กลายเป็นเรื่องปกติ
จากนั้นสมาชิกในห้องประชุมต่างโต้เถียงกัน จนเวลา 11.39 น. นายศุภชัย ได้ให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตน ผ่านไป 11 นาที สมาชิกในห้องประชุมยังคงบางตา จากนั้น นายศุภชัย จึงแจ้งผลการนับองค์ประชุมว่ามีเพียง 235 คน จากสมาชิกทั้งหมด 476 คน ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ถือว่าองค์ประชุมไม่ครบ นายศุภชัย จึงสั่งปิดประชุมในเวลา 11.50 น.
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.เกิดเหตุสภาฯ ล่มมาแล้วรอบหนึ่งโดย นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม กดออดเรียกสมาชิกให้มาแสดงตน แต่ภายในห้องประชุมกลับมีส.ส.บางตา ก่อนสั่งปิดประชุมทันที