ประชัย เรียกร้อง ‘จะนะรักษ์ถิ่น’เข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์ ตัดสิน สวนอุตสาหกรรม

ประธานบริษัท ทีพีไอพีพี  เรียกร้องดลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น ร่วมประชาพิจารณ์สวนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ระบุ ไม่นำที่ดินสาธารณะมาสร้างโครงการ

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการบรอษัททีพีไอ พีพี จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นว่า ขออธิบายเหตุการณ์การคัดค้านการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่จะนะ สงขลาของกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นที่อ้างตัวเป็นคนจะนะเจ้าทะเลจะนะรักทะเล จะนะ ที่มาตั้งแคมป์อยู่หน้าทำเนียบและหน้ายูเอ็นให้สื่อมวลชนและประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทุกฝ่ายที่รักประชาธิปไตย ได้ทราบความจริง

ขอเริ่มต้นจาก สวนกงสงขลาซื่งเป็นที่ชายหาดสวยงามติดทะเลซึ่งรัฐบาลจัดให้ประชาชนเข้าไปใช้เป็นแหล่งสันทนาการสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศเล่นน้ำทะเลกันแต่ว่ามีกลุ่มนักเลงหัวไม้ อ้างตัวเป็นเจ้าพ่อทะเลเข้าไปยึดทำการสร้างบ้านเรือนเป็นหมู่บ้านที่อยู่อาศัย อย่างผิดกฎหมายโดยที่รัฐบาลไม่ได้สนใจที่จะยึดที่คืน ซึ่งเราก็เห็นใจเขาเพราะเขาไม่มีรายได้ที่แน่นอนบางวันก็จับปลามาได้หลายร้อยบาทต่อวันบางวันก็ไม่ได้ปลาเพราะฉะนั้นใคร ที่เขารู้จัก จะจ้างคนพวกนี้ให้ทำอะไรก็ได้ พวกเขาถือว่า เขามีสิทธิ์อยู่เหนือประชาชนพลเมืองกลุ่มอี่น ชาวบ้านทั่วไปไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปใช้สถานที่นี้นอกจากได้รับอนุญาตจากพวกเขาก่อนเท่านั้น ทำให้เขาเลยเข้าใจว่าเขามีอภิสิทธิ์เหนือคนทั้งประเทศอย่างน้อยก็ชาวจะนะคนอื่นหมดทุกคน คิดอยากจะให้คนอื่นทำอะไรก็ได้หรือคิดห้ามไม่ให้คนอื่นทำอะไรในที่ของคนอื่นซึ่งมีสิทธิ์ในที่ของตนเอง100% ก็ได้ โดยไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็อ้างประชาธิปไตยตลอดเวลา

ทั้งๆที่ขณะนี้ในวันที่ 13 ธันวาคมจะมีการทำประชาพิจารณ์ฟังความเห็นของประชาชนชาวจะนะตามวิถีทางของประชาธิปไตยว่าประชาชนชาวจะนะส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตและท่าเรือน้ำลึกที่จะนะในพื้นที่ที่ดินของเจ้าของโครงการโดยไม่ได้ไปยึดเอาสวนกงมาเป็นท่าเรือน้ำลึกอย่างที่กลุ่มนี้กล่าวหา แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ไปทำประชาพิจารณ์แต่เลือกที่จะมารวมกลุ่มตั้งแคมป์ที่หน้าทำเนียบและที่หน้า UN โดยยึดพื้นที่สาธารณะเป็นที่อยู่อาศัยโดยไม่เคารพตัวบทกฎหมายและสิทธิ์ของคนอื่นคัดค้านการทำสวนอุตสาหกรรมในที่ดินของเจ้าของโครงการเพราะเขาถือว่าเขาเป็นอภิสิทธิ์ชนแล้วจะให้คนอื่นต้องเคารพคำสั่งของเขาเท่านั้น

แม้แต่รัฐบาลซึ่งได้รับเลือกตั้งมาโดยเสียงข้างมากของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ให้ร้บฟังคำสั่งคัดค้านการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมในที่ส่วนตัวเพื่อสร้างงานและนำความเจริญมาสู่ดินแดน4จังหว้ดภาคใต้เพื่อความมั่นคงของด้ามขวานทองอันเป็นที่รักของเราการกระทำของอันธพาลกลุ่มนี้ไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตยแต่เป็นเรื่องของอนาธิปไตยหรืออันธพาลธิปไตยทั้งยังมีเจตนาบ่อนทำลายความสงบสุขของชาวบ้านและความมั่นคงของประเทศอันเป็นที่รักของพวกเรา ถ้าเขายังอ้างประชาธิปไตยประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ก็ต้องขอให้เขากลับไปจะนะใช้สิทธิของเขาในกระบวนการประชาพิจารณ์ทึ่มีตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่มาทำตัวเป็นอันธพาลใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย