“พิธา” เสียดาย รธน.ถูกคว่ำ เตือนนับจากนี้ การเมืองนอกสภาฯส่อเค้าเดือดแน่

“พิธา” นำ พรรคก้าวไกล แถลง เสียดาย ร่างรธน.ถูกคว่ำ พลาดโอกาสทอง ทุเลาความขัดแย้งในสังคม แต่ไม่สูญเปล่า รับลูก “ไอติม-ปิยบุตร” ชูเป็นนโยบายพรรคหาเสียงเลือกตั้ง ลั่นตราบที่ยังมีลมหายใจ จะดันความฝันให้เป็นจริง ไม่รับประกัน จากนี้การเมืองไทยส่อเค้าเดือดแน่

วันที่ 17 พ.ย.2564 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. .. ฉบับประชาชน ในวาระที่ 1

นายพิธา กล่าวว่า เสียดายโอกาสที่ ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว. จะนำเอาความขัดแย้งมาพิจารณาพูดคุยในสภาฯและกรรมาธิการ (กมธ.) ปิดประตูในการพูดคุยอย่างประนีประนอม เพื่อหาฉันทามติให้กับสังคมไทย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) ในการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ถือว่าสูญเปล่า หากวันข้างหน้าเมื่อมองย้อนกลับมาจะเห็นว่า วันนี้เป็นโกเด้นโมเมนท์หรือโอกาสทอง ที่พวกเรามีวาระที่ได้ถกแถลงเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการและไม่เคยมีมาก่อน แม้ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีทั้งประชาชนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับฟังถึงปัญหาการมี ส.ว. และที่มา ส.ว. ที่ไม่มีรากฐานจากประชาธิปไตย ปัญหาของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ รวมถึงปัญหาของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มีคำว่าโรคระบาดอยู่ 3 คำ ซึ่งถ้าหากนำมาใช้เป็นกฎหมายคิดว่าในอนาคตจะไม่สามารถตอบโจทย์ อนาคตของชาติ และอนาคตของประเทศจะเต็มไปด้วยอดีต ถ้าเราไม่สามารถที่จะนำสามัญสำนึกกลับเข้าสู่การเมืองไทย

“คิดว่าประชาชนที่ได้ฟังคำแถลงชี้แจง ฟังเหตุผลทั้งสองฝ่ายน่าจะพอตัดสินใจได้ อะไรควรที่จะเป็นอนาคตของประเทศนี้ ผมในฐานะหัวหน้าพรรคพร้อมรับข้อเสนอของประชาชนฉบับนี้ เป็นนโยบายทางการเมือง ในการหาเสียงต่อไป และก็หวังว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนที่เห็นด้วยกับผู้ยื่นร่างฉบับนี้เข้ามา ยืนยันว่าจะผลักดันการแก้ให้ความฝันของทุกคนเป็นจริง”นายพิธา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เสียดายโอกาสทองที่จะทุเลาความขัดแย้ง ในการนำมาหารือในสภาฯ ส่วนอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็คงบอกไม่ได้ ซึ่งการเมืองนอกสภาฯจะร้อนหรือไม่ก็คงมีอีกหลายปัจจัย แต่ประชาชนได้เห็นแล้วว่า วันนี้ใครมีความจริงใจหรือไม่จริงใจแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ส่วนจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่นั้น ก็คงต้องไปหารือกันอีกครั้ง

เมื่อถามอีกว่า หากยังมี ส.ว. อยู่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญคงจะเกิดขึ้นได้ยากหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่าตราบใดที่ ยังมีลมหายใจ ยังต้องมีความหวัง อีก10 ปีข้างหน้าหากย้อนกลับมาในวันนี้ก็คงเห็นว่า เรามีโอกาสทองได้มาถกแถลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และหลังจากนี้พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน คงต้องหารือกันว่า การเมืองต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเดินไปอย่างไร.