เกมเปลี่ยน!!”บิ๊กป้อม”ขออุ้ม”ธรรมนัส”อยู่ต่อ ขู่ลั่น พปชร.ถ้าไม่เลิกกัดกัน”กูลาออก”

อินไซด์ป่ารอยต่อ!!! เกมเปลี่ยน‘บิ๊กป้อม’ยังกระเตง‘ธรรมนัส’ไปต่อ ขณะที่แกนนำหวั่นนายกฯชิ่งตั้งพรรคใหม่ ก่อนเจอสวน“ผมก็เลิกเล่นการเมือง” พร้อมขู่ถ้าไม่เลิกทะเลาะกัน”กูลาออก” เผยผลแบบสอบถาม สรุปยังไว้วางใจหัวหน้า-เลขาฯคนเดิม “เฮ้ง-ชัยวุฒิ” เจอลูกพรรคบ่น รมต.ไม่ดูแล

วันที่ 28 ต.ค.2564 ความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และเลขาธิการพรรค โดยหลังจากช่วงบ่ายวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ได้ต่อสายหา กก.บห.ทุกคนเพื่อไม่ให้เซ็นใบลาออกจนกว่าจะประชุมวันที่ 28 ต.ค. ทำให้มี ส.ส.ที่เซ็นใบลาออกรอไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ยื่น ประสานไปยัง 6 รัฐมนตรีเพื่อขอถอนใบลาออก ทำให้เหลือคนที่เซ็นใบลาออกแล้วเพียง 6 คนนั้น

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค. ได้มี กก.บห.บางส่วน อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อพบและร่วมรับประทานอาหารเช้า ซึ่งเป็นเมนูข้าวต้มหมู กับ พล.อ.ประวิตร โดยช่วงหนึ่งได้มีการสอบถามความชัดเจนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย 1 ในแกนนำพรรคได้พูดกับ พล.อ.ประวิตร ถึงปัญหาที่เกิดจาก ร.อ.ธรรมนัส พร้อมระบุว่า รัฐบาลและพรรค พปชร.จำเป็นต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าเป็น ร.อ.ธรรมนัส คงทำงานกันลำบาก เพราะนายกฯ ไม่เอาร.อ.ธรรมนัส จึงควรปรับโครงสร้างให้ทำงานได้

ทำให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวสวนไปว่า “พวกคุณไปฟังความข้างเดียวกัน ถ้าไม่เอาธรรมนัส แล้วจะเอาใคร เขาทำงานได้ ทำงานเพื่อพรรค แล้วใครจะทำงาน คนอื่นก็เป็นคู่กรณีของเขา ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน กูลาออก ใครอยากมาเป็นก็มาเป็นเลย” แกนนำคนเดิมจึงระบุว่า แต่ถ้ายังเป็นร.อ.ธรรมนัส ปัญหาจะไม่จบ เพราะนายกฯอาจไปตั้งพรรคใหม่ ทำให้ พล.อ.ประวิตร ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า “ถ้านายกฯตั้งพรรคใหม่ ผมก็เลิก ไม่เล่นแล้วการเมือง”

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ตอนหนึ่งยังมีการพูดถึงข้อสรุปในวงหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร กับ 6 รัฐมนตรี เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างพรรค เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านด้วย โดย พล.อ.ประวิตรระบุว่า วันดังกล่าวไม่ได้มีข้อสรุปอะไร ตนเองเพียงนั่งรับฟังเฉยๆ “ก็วันนั้นพวกคุณรุมผม”

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน บรรดาแกนนำ และ ส.ส.หลายคนได้ทยอยเข้าพบ พล.อ.ประวิตร อย่างพร้อมเพรียง อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายชัยวุฒิ โดย พล.อ.ประวิตร ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นว่า “ใครมีความในใจอะไรก็พูดออกมาเลยคุยกันตรงๆ” โดยมี ส.ส.ภาคใต้บางคน กล่าวว่า จริงๆ แล้วพวกเราไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทะเลาะกันเอง ทำให้ พล.อ.ประวิตร ตอบกลับไปว่า “ที่เป็นปัญหาอาจมีบางคนทะเลาะ และมีเด็กไปบอกนายกฯ จึงทำให้เป็นปัญหา เอาเป็นว่าต่อไปนี้ ขอให้รักกัน พูดคุยกัน และให้จบตรงนี้ ไม่เป็นไร ถ้าที่ผ่านมีอะไรที่ผิดพลาด หรือ ผมอาจจะดูแลทุกคนไม่ดีพอก็ขอโทษ แต่ยืนยันว่าผมรักสมาชิกทุกคน”

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ได้ถือโอกาสอธิบายว่า “ผมไม่มีอะไร ที่ผ่านมาทำงาน ใจถึงพึ่งได้ พร้อมช่วยทุกคน แต่เรื่องที่เกิดขึ้น มีบางคนที่ไม่ชอบผมเอาไปพูดนอกพรรค ทำให้สับสน ขอให้มาพูดกัน” พร้อมกันนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังเสนอให้ ส.ส.กลุ่มต่างๆ มาที่นั่งฟังจะได้รับทราบไปพร้อมกัน จะได้ไม่ต้องไปประชุม กก.บห.วันที่ 28 ต.ค.อีก ให้มันจบกันวันนี้ ทั้งนี้ เมื่อ ร.อ.ธรรมนัสพูดเสร็จบรรยากาศได้ตรึงเครียดขึ้น เมื่อนายชัยวุฒิ ได้พูดสวนไปว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกัน เมื่อครั้งที่จะโหวตสวนผมและนายกฯคืออะไร” ร.อ.ธรรมนัส จึงตอบว่า “ที่ผ่านมาก็ขอโทษ ส่งข้อความและชี้แจงไปหมดแล้ว” ทำให้นายชัยวุฒิย้ำอีกครั้งว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกันจะดีกว่า”

นอกจากนี้ ในการหารือครั้งนี้ ได้มีการแจกกระดาษที่เป็นลักษณะแบบสอบถามประมาณ 7-8 ข้อ เป็นใบละ 1 คำถามให้กับสมาชิกไปเขียนด้วยลายมือ ไม่ต้องระบุชื่อ เช่น สอบถามว่าต้องการให้ใครเป็นหัวหน้าพรรค ต้องการให้ใครเป็นเลขาธิการพรรค และอนาคตอยากให้พรรคเป็นอย่างไร รวมถึงให้แสดงความรู้สึกที่มีต่อรัฐมนตรีในสังกัดพรรค จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้อ่านผลการกรอกแบบสอบถามด้วยตัวเอง โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาว่า ทั้งหมดพร้อมใจกันยืนยันให้ พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนเลขาธิการพรรคประมาณ 80% ยังไว้ววางใจ ร.อ.ธรรมนัส รองลงมาคือ นายอนุชา น้อยที่สุดคือชื่อของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ขณะที่การแสดงความเห็นต่อรัฐมนตรีของพรรค ส่วนใหญ่แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวคือ ไม่พอใจต่อการปฏิบัติตัวของรัฐมนตรี 2 กระทรวงคือ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงดีอีเอส ทั้งนี้ ผลการตอบแบบสอบถามดังกล่าว จะมีการนำไปรายงานให้ที่ประชุม กก.บห.ทราบ