รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย รมว.ท่องเที่ยวฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม จ.กระบี่ พร้อมมอบวัคซีนฉีดให้ประชาชน และนักเรียนอายุ12ปีขึ้นไป เพื่อรองรับการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล พร้อมตรวจเยี่ยมการก่อสร้างสะพานข้ามเกาะลันตา
วันที่ 7 ต.ค.2564 ที่ ศาลาว่าการจังหวัดกระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และ คณะผู้บริหารสธ. เดินทางตรวจเยี่ยม จ.กระบี่ เพื่อพิจารณานโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมีผวจ.กระบี่ เป็นผู้รับมอบ นายอนุทิน กล่าวว่า เดินทางมาตรวจการดำเนินการของจังหวัด ในการรองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยกระบี่ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวอันดับที่ 2 รองจาก จ.ภูเก็ต ที่มีความสะดวกสบาย ธรรมชาติสวย ดังนั้น ต้องเตรียมพร้อม เพื่อเดินหน้านโยบายต่างๆ ที่วางไว้ส่วนการจัดสรรวัคซีนจะแบ่งตามจำนวนประชากร สถานการณ์ระบาด และพื้นที่เศรษฐกิจ จากการรายงานของทางจังหวัด ที่มีความต้องการวัคซีนเพิ่มเติมประมาณ 340,000 โดส เนื่องจากเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว วันนี้ได้นำวัคซีนโควิด-19 มามอบให้จังหวัด 400,000 โดส และจะขอให้กรมควบคุมโรค จัดสรรให้อีก 1 แสนโดส รวมเป็น 5 แสนโดส แต่ขอเน้นย้ำ สูตรวัคซีนต้องยึดถือตามการพิจารณาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องซึ่งล้วนเป็นแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญตั้งเป้าว่าจะต้องฉีดให้หมดภายในเดือนต.ค. เพื่อรองรับแผนการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในเดือน พ.ย. และในจำนวนนี้จะต้องเตรียมเป็นเข็ม 3 ด้วย เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นมา ทั้งนี้ วัคซีนสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) จะต้องฉีดให้ได้ 100%
จะต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ให้เด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปีให้ครบถ้วน แม้ภายในจังหวัดปลอดภัยแล้ว แต่ทางจังหวัดยังต้องมีการตรวจคัดกรองคนที่เข้ามาจากนอกจังหวัดด้วย เพื่อลดความเสี่ยงการระบาด โดยจะต้องเน้นย้ำเรื่องการป้องกันจังหวัด จากการลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าพื้นที่ เพราะจากประสบการณ์ของ จ.ภูเก็ต การระบาดไม่ได้เกิดขึ้นจากคนในพื้นที่แต่เกิดจากการลักลอบของคนข้างนอกเข้ามา ดังนั้นประชาชนทุกคนมีส่วนช่วยกันป้องกันปัญหาดังกล่าวนายอนุทิน กล่าวอีกว่า ต้องขอชื่นชมทางจ.กระบี่ ที่มีมาตรการเข้มข้น ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR ทั้งยังมีแผนรองรับสถานการณ์เตียงผู้ป่วยในกลุ่มสีแดง เหลืองและเหลือง กว่า 3,900 เตียง แม้ทุกคนจะได้รับวัคซีนแล้ว แต่เราจะไม่ประมาท เพื่อให้มั่นใจว่า หากมีการติดเชื้อ ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการสร้างสะพานข้ามเกาะลันตา หัวหิน – คลองหมาก จากนั้น ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงาน และให้กำลังใจบุคลากรที่โรงพยาบาล อ.คลองท่อม และโรงพยาบาลสนามพลบดี สำหรับสถานการณ์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ จ.กระบี่ ตั้งเป้าฉีดให้ครอบคลุมประชากรทั้งจังหวัดอย่างน้อย 70% โดยขณะนี้ อ.เมือง ฉีดแล้ว 50% ขณะที่กลุ่มเสี่ยง 608 เป้าหมายการฉีดครอบคลุม 80% ขณะนี้ฉีดแล้ว 62.51% ส่วน อ.เมือง และ เกาะลันตา ที่ถูกกำหนดให้เป็น COVID-19 Free Area เป้าหมายที่ต้องฉีดได้อย่างน้อย 70% ขณะนี้ฉีดได้ 50% และ 49.94% ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน เกาะพีพี เกาะไหง และเกาะไร่เล ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว สามารถฉีดได้ครบ 100% แล้ว โดยได้เริ่มเปิดเมืองคู่ขนานกับภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์เมื่อเดือน มิย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะเร่งฉีดวัคซีนใน อ.อ่าวนาง และ อ.คลองม่วง ให้มากขึ้นเพื่อรองรับการเปิดเมืองในเดือน พย.นี้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา 5 ประเทศสูงสุด ได้แก่ อิสราเอล เยอรมัน ฝรั่งเศส อเมริกา และออสเตรีย จำนวนห้องพักตั้งแต่เดือนส.ค.-ธ.ค. รวม 2,324 คืน รวม 416 คน โดยสถานประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.กระบี่ ที่ผ่านมาตรฐาน SHA Plus มี 403 แห่ง