พระเจ้าอยู่หัว พระราชทานถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยโปรดเกล้าฯ ให้ องคมนตรี ร่วมกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ นำถุงยังชีพไปมอบให้ ปชช.ในพื้นที่ อยุธยา ชัยภูมิ นครสวรรค์ และ อ่างทอง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดย เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ ดังนี้
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโอกาสนี้ องคมนตรี ได้ประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ โดยเชิญพระบรมราโชบายในการป้องกันและแก้ไขการเกิดภัยธรรมชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวในที่ประชุมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์ นอกจากนี้ยังลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยซึ่งเป็นผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลบางหลวงโดด อำเภอหักไห่ จำนวน 5 ครอบครัว และพื้นที่ตำบลกุฎี อำเภอบางบาล จำนวน 5 ครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอำพล กิตติอำพน องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 4,000 ถุง ไปมอบแก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่เชิญ ถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองชัยภูมิอำเภอเมืองชัยภูมิ จำนวน 10 ครอบครัวทั้งนี้ จังหวัดชัยภูมิได้รับอิทธิพลจากมรสุม ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน สถานที่ราชการ ได้รับความเสียหายและผลกระทบใน 16 อำเภอ 108 ตำบล 1,155 หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตร 299,283 ไร่ และบ่อเลี้ยงปลาและกุ้ง ถูกน้ำท่วมเสียหาย 1,117 บ่อ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 71,049 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลีคลายบางส่วน เหลือในบางพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่เส้นทางน้ำหลากยังคงมีน้ำท่วมขัง
จังหวัดนครสวรรค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาอุทกภัย รวมทั้งเชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์พลเรือเอกพงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ลงพื้นที่เชิญถุงยังชีพพระราชทานไปมอบให้แก่ประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ โอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปยังตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่
พร้อมลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จำนวน 10 ครอบครัวจังหวัดอ่างทอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 311 ถุง และสิ่งของพระราชทาน ประกอบด้วย เต้นท์นอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยที่ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถูกน้ำท่วมที่อยู่อาศัย ต้องอพยพขึ้นมาอาศัยบนถนนคันคลองสายโผงเผง-วัดก่อไผ่ ณ บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง และอีกส่วนจะนำไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลราชสถิตย์ ตำบลชัยฤทธิ์ และตำบลไชยภูมิ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง