คดีพลิก อย่างแรง!! “แม่สาวใหญ่” แฉความจริง ลูกสาว บุกยิง “เจ้าอาวาส” ไม่ใช่เรื่องชู้สาว ก่อนเผยเบื้องลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 27 มี.ค.) ร.ต.อ.วิโชคชัย อ่อนละมัย พนักงานสอบสวน สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้หญิงที่มีอาการทางประสาท ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง พระสุมห์ ณัฐพล ญาณวโร เจ้าอาวาสวัดอารีทวีวนาราม ม.7 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสรรคบุรี กำลังช่วยกันนำพระสุมห์ ณัฐพล ญาณวโร เจ้าอาวาสวัด อายุ 40 ปี นำส่งโรงพยาบาลสรรคบุรี และนำส่งต่อ โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เพื่อผ่าตัดกระสุน ที่ถูกยิงเข้าที่ขาซ้ายและหน้าท้องรวม 3 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นางสาวอาทิตยา ปานเงิน อายุ 31 ปี อาชีพทำนา ซึ่งมีอาการทางประสาท ได้จับกุมตัวไปไว้ที่สภ.สรรคบุรี จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 6 ปลอก บริเวณหน้าหอระฆังและมีกองเลือดจำนวนมากบริเวณที่ใต้ศาลาหอสวดมนต์ และตามเส้นทางที่พระวิ่งหนี

จากการสอบถาม นายสุรสิทธิ์ เจริญมังสัง อายุ 50 ปี กรรมการวัด ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นนางสาวอาทิตยา ผู้ก่อเหตุ ขับรถปิคอัพ 4 ประตู ทะเบียน กค 7173 สุพรรณบุรี มาจอดที่หน้าศาลาวัดในช่วงเช้าขณะที่ชาวบ้านกำลังมาทำบุญอยู่บนศาลา จนกระทั่งเจ้าอาวาสเดินลงจากศาลาเพื่อจะกลับกุฎิก็เห็นนางสาวอาทิตยา ลงจากรถพร้อมอาวุธปืนสั้น แอบไว้ด้านหลัง เดินตามเจ้าอาวาส จึงตะโกนบอกเจ้าอาวาสให้ระวัง แต่นางอาทิตยาได้ลั่นไกปืนใส่เจ้าอาวาสบริเวณหน้าหอระฆัง เจ้าอาวาสจึงได้หันมาโยนปิ่นโตใส่มือปืน ก่อนวิ่งหนีแต่ก็ถูกกระสุนปืนที่ขาและหน้าท้อง วิ่งมาล้มลงที่ใต้หอสวดมนต์ นางอาทิตยามือปืนก็ได้ตามมายืนถือปืนจ่อเจ้าอาวาสไว้ และตะโกนบอกชาวบ้านว่าเป็นเรื่องส่วนตัวห้ามใครเข้ามายุ่งแต่ไม่ได้ยิงซ้ำ

ขณะที่ร.ต.ท.ปราโมทย์ กล่อมจิตต์ รองสารวัตรจราจร สภ.สรรคบุรี ที่มีบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้เข้ามาเจราจากับนางสาวอาทิตยา ขอให้วางอาวุธปืน และขอนำตัวเจ้าอาวาสส่งโรงพยาบาล เพราะมีเลือดออกมาก ซึ่งน.ส.อาทิตยา ได้มีข้อแม้ว่าจะวางอาวุธปืน แต่ขอนั่งรถพยาบาลไปกลับเจ้าอาวาสด้วยร.ต.ท.ปราโมทย์ จึงแกล้งรับปาก น.ส.อาทิตยา จนยอมมอบปืนให้และยอมมอบตัว

ด้านนางเฉลิม ปานเงิน อายุ 51 ปี  แม่ของนางสาวอาทิตยา กล่าวว่า หลังทราบข่าวได้ติดตามมาที่วัด และได้แจ้งกับตำรวจว่าลูกสาวมีอาการป่วยทางจิตและรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ ต้องกินยามาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ซึ่งหลังจากลูกสาวเริ่มมีอาการทางประสาท มักจะบอกว่ามีเสียงดังในหัวและบอกให้ฆ่าตลอดเวลา โดยลูกสาวมักจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องนอนแต่เช้าวันนี้ลูกสาวได้แอบขโมยรถยนต์ของตนออกมาจนมาทราบว่ามาก่อเหตุดังกล่าว โดยไม่ทราบว่าลูกเอาปืนมาจากไหน และยืนยันว่าลูกไม่เคยมีเรื่องกับเจ้าอาวาสมาก่อน


ภาพ/ข่าว ชฎารัตน์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยนาท

เรียบเรียงโดย

รัตติยา เสสันเทียะ : สำนักข่าวทีนิวส์