ดร.ไชยันต์ ไชยพร นักวิชาการรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แนะ นายกฯ กล้าปลด2รมต.ทั้งที่ไม่ถูกอภิปรายฯ ตัวเองก็ต้องกล้าเปิดบัญชีทรัพย์สิน เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี อย่าอ้าง ปชช.ไม่ให้เปิด
วันที่ 11 ก.ย.2564 ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ควรมีความใจนักเลง กล้า เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ หลังจากดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2 แต่กลับไม่มีการเปิดเผยข้อมูลบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน ต่อประชาชน เหมือนธรรมเนียมของนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งที่เคยมีมา
ดังนั้น เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี ของการมีจริยธรรมทางการเมือง โดยไม่ต้องรอให้กฎหมายบังคับให้เปิด แต่ยอมเปิดด้วยตัวเอง เมื่อกล้าปลดรัฐมนตรีทั้งที่ไม่ถูกอภิปราย ก็ต้องกล้าเปิดเผย บัญชีทรัพย์สิน “กล้าปลด ก็ต้อง กล้าเปิด ! ลุงตู่ “กล้า” ปลด รมช. ถึง 2 คน ทั้งที่การทำงานของทั้งสองไม่ได้ถูก อภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเช่นนั้น เพื่อความสง่างาม และ ได้ใจพี่น้อง ลุงตู่ควร กล้า และ สมัครใจ เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีของการมีจริยธรรมทางการเมืองกฎหมายไม่บังคับให้เปิด แต่เปิดเองเลย ใจนักเลงตัวจริง”
โดยก่อนหน้านี้ นางอัคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็ตั้งคำถามคล้ายกันว่า ทำไมนายกฯจึงปลดรัฐมนตรีที่ไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย ระบุว่า “นายกควรอธิบายเหตุผลการปลดรัฐมนตรี “เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ” คืออะไร รัฐมนตรีคอรัปชั่น บริหารงานผิดพลาดจนเกิดผลกระทบต่อประชาชน หรือ เหตุผลส่วนตัวของนายกฯเอง เพื่อไม่ให้เกิดการคาดเดาว่าเป็นการปลดรัฐมนตรีตามอำเภอใจ คราวก่อนฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไววางใจธรรมนัส แต่นายกกลับอุ้มชู มาคราวนี้คนถูกอภิปรายเป็นนายกเอง แต่ธรรมนัสกลับถูกปลด
ส่วนประเด็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยปิดบังเลยมีการชี้แจงทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ถ้าพ้นวาระ 1 ไม่เกินเดือนไม่ต้องเปิดบัญชีทรัพย์สิน แต่ตนก็ส่งไปแล้ว ถ้าถึงเวลาจำเป็นก็ขึ้นอยู่กับป.ป.ช. เพราะเป็นกฎหมายของป.ป.ช. ยืนยันว่า ตนไม่ได้ขัดขวาง จะเปิดก็เปิด จะปิดก็ปิด เป็นเรื่องของท่าน ทั้งนี้เมื่อมีอะไรเพิ่มเติมก็แจ้งทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องเปลี่ยนตำแหน่งของตนในช่วงเวลา 1 เดือนตามกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่ป.ป.ช.จะพิจารณาว่าจะเปิดเผยหรือไม่ เดี๋ยวจะไม่เข้าใจกันอีก
