หน.พรรคปชป. ระบุพรรคให้ความสำคัญ การเลือกตั้งท้องถิ่น เน้นมาก เป็นฐานเสียงสำคัญ พรรคพร้อมปักธง สู้ศึกเลือกตั้งกทม. ขอแก้ตัวหลังความนิยมฮวบลง แย้มมีสมาชิกจากหลายวงการย้ายขั้วมาซบ แต่ขออุบไว้ก่อน
วันที่ 5 ก.ย. 2564 ที่ เขตพระนคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น กทม. และพัทยา ที่จะมีการนำเข้าหารือในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 กันยายน นี้ ว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อม และมีการเตรียมการมาโดยลำดับ อย่างน้อยที่สุดประการแรก ตนได้ลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับเพื่อนอดีต ส.ส. อดีต ส.ก. อดีต ส.ข. และกรรมการบริหารพรรคมาตลอด แม้แต่วันนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ส่วนการเตรียมตัวผู้สมัครสำหรับ ส.ส. เดิมนั้น พรรคเตรียมไว้สำหรับ 30 เขต เพราะรัฐธรรมนูญยังถือว่ามี 30 เขตอยู่เพราะยังไม่มีการแก้ไข ถ้าแก้ก็ว่ากันอีกที ในส่วน 30 เขตนี้ พรรคประชาธิปัตย์เคาะตัวผู้สมัครแล้ว 27 คน ยังขาดเพียง 3 เขตเท่านั้น สำหรับผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต เคาะไปแล้ว 40 กว่าเขต เพราะฉะนั้นทุกอย่างถือว่าในแง่ตัวบุคคลก็มีความพร้อม และขณะนี้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส. ส.ก. ของพรรค ก็เดินหน้าลงพื้นที่ไปแล้วหลายเดือน โดยต่อเนื่องสม่ำเสมอ
“ขอเรียนย้ำอีกรอบว่า พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ในอดีต แม้ว่าบางช่วง บางเวลาอาจจะได้รับคะแนนความนิยมลดน้อยถอยลงไปบ้าง แต่ผมก็ยังหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถฟื้นพรรคประชาธิปัตย์กลับคืนมาได้ในกรุงเทพมหานคร ภายใต้การสนับสนุนของพี่น้องชาวกรุงเทพฯ” หน.พรรคปชป.กล่าว และว่า
สำหรับในส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีการกำหนดเบื้องต้นว่าจะมีการเลือกตั้งภายในวันที่ 12 ธันวาคม นี้ ยังไม่มีการวางไทม์ไลน์ แต่มีตัวผู้สมัครแล้ว และได้มีการเตรียมการมาระยะหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดตัว เหตุที่ยังไม่เปิดตัวเพราะยังไม่มีความแน่นอนและชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แม้จะปรากฏมีข่าวว่าจะมีการเสนอเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นเข้าสู่ ครม. เร็วๆนี้ในปลายปีนี้ ที่จะให้มีการเลือกตั้งก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้ชัดเจนว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งก็มี อบต. เป็นต้น จะมี กทม. กับ เมืองพัทยาอยู่ด้วยหรือไม่ ซึ่งก็ต้องติดตามมติคณะรัฐมนตรีก่อน และจะต้องฟังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนด้วยว่า จะมีความเห็นว่าอย่างไร ซึ่งต้องถือเป็นหลักใหญ่ เพราะขณะนี้ถือว่ายังไม่มีการเคาะในเรื่องนี้
“ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุดผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นที่ยอมรับ และผมก็เคยย้ำไปแล้วว่าเป็นทั้งคนรุ่นใหม่ และเป็นนักบริหาร เพราะกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าต้องเป็นนักบริหาร เพราะฉะนั้นได้พิสูจน์ฝีมือ ศักยภาพ ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วในการบริหารองค์กรอื่นๆ อย่างน้อยที่สุดพี่น้องชาวกรุงเทพ จะรับไว้ประกอบการพิจารณา ไม่ใช่ได้ยินชื่อปั๊บก็เขี่ยทิ้ง ผมไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น” นายจุรินทร์ กล่าว
ต่อข้อถามถึงการมี ส.ส. ขอย้ายเข้ามาสังกัดพรรคในขณะนี้ด้วยหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มี แต่ไม่ขอตอบรายละเอียดว่าเป็นใคร จังหวัดไหน เขตไหน แต่มีสมาชิก และบุคคลที่มีศักยภาพที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคในปัจจุบันที่ประสงค์จะเดินเข้ามาร่วมพรรคกับประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
“ก็มีแจ้งความจำนงมา แต่อยู่ที่พรรคจะพิจารณาต่อไป แต่ไม่ขอตอบว่ากี่คน แต่เอาว่ามีก็แล้วกัน แล้วก็มีทั้งคนรุ่นใหม่ แล้วก็มีทั้งคนที่มีศักยภาพ เป็นทั้งนักธุรกิจก็มี เป็นนักกฎหมายก็มี เป็นผู้บริหารก็มี มีหลายวงการที่จะเข้ามาร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคต่อไปในอนาคต” นายจุรินทร์ กล่าว