“เอกอุทัย” นำสื่อ พิสูจน์ โรงงานปากช่อง ถูกเพลิงผลาญ ยันไร้สารเคมีอันตราย

บริษัท เอกอุทัย จำกัด นำสื่อมวลชน ลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ โรงงานที่ ปากช่อง ซึ่งเก็บวัสดุเชื้อเพลิง สำหรับเผาปูนขาว ถูกเพลิงไหม้ โต้ลั่นไม่มีสารเคมีอันตราย

วันที่ 4 ก.ย. 2564 ผู้บริหารบริษัท เอกอุทัย จำกัด นำโดย นายกรวัชร เทพาพรสุวรรณ์ ผู้จัดการบริษัทได้นำสื่อมวลชนเข้าดูจุดเกิดเหตุโกดังโรงงานบริษัทเลขที่ 47/384 ตำบลบ้านใหม่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งถูกเพลิงไหม้ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยจุดเพลิงไหม้เป็นโกดังเก็บวัสดุเชื้อเพลิงสำหรับเผาปูนขาว มูลค่าความเสียหายหลักแสนบาทนายกรวัชร กล่าวว่า บริษัท เอกอุทัย เป็นบริษัท ผลิตปูนขาว ซึ่งจะรับซื้อวัสดุเชื้อเพลิงที่เป็นกากอุตสาหกรรม เป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหินสำหรับเผาปูนขาว บริษัทได้รับซื้อกากอุตสาหกรรมจากโรงงานต่างๆมาเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งก่อนรับซื้อจะส่งรายละเอียดให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณา เมื่อได้รับอนุญาตจึงรับซื้อ ซึ่งจุดที่เพลิงไหม้เป็นโกดังเก็บวัสดุเชื้อเพลิง“ตามที่มีการนำเสนอข่าว เพลิงไหม้โกดังสารเคมีของบริษัท ไม่เป็นความจริง บริษัทไม่มีสต็อกเคมี ส่วนใหญ่เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเผาปูนขาว อาทิ ขยะ ไม้พาเลซ เป็นต้น ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด รวมทั้ง บริษัทไม่ได้ไม่ได้รับกำจัดกากอุตสาหกรรม หรือสารเคมีอันตราย เป็นเพียงการนำกากอุตสาหกรรมตามที่กฎหมายมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเผาปูนขาวเท่านั้น” นายกรวัชร กล่าวผู้จัดการบริษัทเอกอุทัย กล่าวว่า จุดที่เพลิงเป็นโกดังแบบเปิด เพลิงเกิดจากจุดเก็บเชื้อเพลิง ซึ่งฝ่ายพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบสาเหตุ มูลค่าความเสียหายเป็นเชื้อเพลิงประมาณ 4-5 ตัน และตัวโกดังเสียหายบางส่วน ส่วนไซโลเก็บปูนขาวไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ส่วนผลกระทบตอนเกิดเหตุกลิ่นจากการเผาไหม้อยู่ภายในบริเวณโรงงานไม่ได้ออกไปข้างนอกแต่อย่างใด ส่วนผลกระทบต่ออากาศทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังวัดค่ามลพิษอยู่ แต่จากการสังเกตุจุดเพลิงไหม่บริเวณจำกัด และไหม้อยู่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง คาดว่า มลพิษคงไม่มีเท่าไหร่“บริษัทคำนึงถึงความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยของชาวบ้านและชุมชนมาก ได้มีการไปตรวจสอบการร้องเรียนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งตำรวจ สาธารณสุข ไม่พบมีการร้องเรียนแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน บริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในพื้นที่รอบๆโรงงานรัศมี 4-5 กิโลเมตรไม่พบว่า มีมลพิษแต่อย่างใด” นายกรวัชร กล่าว