เบื้องหลัง ก่อนลงมติ “บิ๊กตู่-5รมต.”พร้อม สายสัมพันธ์ลึก”พี่น้อง3ป.”

ติดตามความเคลื่อนไหว การอภิปรายไม่ไว้วงใจ นายกรัฐมนตรี และ รมต.อีก5 ราย ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ท่ามกลางกระแสข่าว สะพัดว่อนความแตกแยกใน พรรค พปชร. ระหว่าง “บิ๊กตู่” และ “รอ.ธรรมนัส” รวมทั้งความสัมพันธ์ ลึกซึ้งของ “พี่น้อง3ป.” ที่ “บิ๊กป้อม” ประกาศกร้าว “มึงจะให้กูทรยศน้องกูเหรอ”

วันที่ 4 ก.ย.2564 สภาผู้แทนราษฎร จะลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม กับ 5 รัฐมนตรี คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ท่ามกลางกระแสข่าว นายกฯ นำชายฉกรรจ์หัวเกรียนจำนวนหนึงขนกระเป๋าลากใส่เงินเพื่อซื้อเสียงแลกคะแนนโหวตไว้วางใจ สส.รายละ5ล้านบาท โดยล่าสุดมี การเปิดจำนวน สส.ทั้งหมด ทั้งฝ่ายรัฐบาล และ ฝ่ายนค้าน เปรียบเทียบสัดส่วนให้เห็นตัวเลขชัดๆดังนี้

ความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการอภิปรายวันสุดท้าย ท่ามกลางกระแสข่าว ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จำนวนหนึ่งอาจจะโหวตคว่ำ หรือ งดออกเสียงให้กับนายกฯ เพื่อกดดันให้ลาออก และจะดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. นั่งนายกฯแทน และกรณีที่ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายกลางสภากล่าวหานายกฯแจกเงิน 5 ล้านบาทให้ ส.ส.เพื่อแลกกับเสียงโหวตสนับสนุน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ที่รัฐสภาว่า ที่มี ส.ส.กล่าวหาว่าตนแจกเงินในสภา เป็นการพูดที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ คาดว่าฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ตนคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้เรื่องแบบนี้ และเมื่อถามว่าที่นายกฯบอกว่าการโหวตแล้วแต่หัวหน้าพรรค พปชร.นั้นได้มีการพูดคุยกันอย่างไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “คุยกันตลอด สื่อเป็นคนตั้งเองใช่หรือไม่ 3 ป. ไม่มีใครมาทำลายผมได้หรอก ไม่ว่าจะตีผมอย่างไร ผมไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน”

และต่อข่าวถามว่า กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯและเลขาธิการพรรค พปชร. ยังมีความกังวลใจอะไรกันอีกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ”ผมไม่เคยมีประเด็นอะไรกับเขา เพราะผมเป็นคนให้เขาเข้ามาทำงานเอง แล้วผมจะไปมีอะไรกับเขาล่ะ ผู้ใหญ่จะไปมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร”

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์สื่อก่อนประชุมกับ ส.ส.พปชร. ที่อาคารรัฐสภา “ปัญหาในพรรคไม่มีอะไร นายกฯไป ผมก็ไป” จากนั้น พล.อ.ประวิตร ประชุมพูดคุยกับ ส.ส.พปชร.โดยใช้เวลาเพียง 9 นาที โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกระแสข่าว 3 ป. แตกคอกันว่า “ข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง และขอให้ให้โหวตไปในทิศทางเดียวกันทุกคน และยืนยันว่า ไม่ต้องการเป็นนายกฯ ถ้านายกฯไป ผมก็ไป” จากนั้น พล.อ.ประวิตรเดินทางออกจากรัฐสภาไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางตามออกไปในเวลาไล่เลี่ยกัน

ทั้งนี้ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ มี พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ส.ส.พปชร.ส่วนหนึ่งอยู่ด้วย เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปถึง ทาง ร.อ.ธรรมนัสได้ยกมือไหว้ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมระบุว่า “ถ้าทำอะไรให้ท่านไม่สบายใจผมขอโทษ” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยกมือรับไหว้ ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัส จะชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวลือทั้งหมด นักข่าวไปเขียนกันเอง ไม่รู้เรื่อง เป็นเฟคนิวส์ และที่เชิญท่านมาเพราะอยากขอความมั่นใจว่านายกฯจะดูและจะทำงานร่วมกับ ส.ส.และพรรค พปชร.อย่างไร มาขอความมั่นใจ”

ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบกลับว่า “มีอะไรที่เราต้องดูแลบ้าง” ร.อ.ธรรมนัสตอบกลับว่า “มีหลายเรื่องที่ ส.ส.ไม่สบายใจ ในฐานะเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล แต่พรรคอื่นขออะไรก็ได้ แต่พวก ส.ส.พปชร.ไม่ได้อะไร” พล.อ.ประยุทธ์ตอบกลับว่า “ถ้าโครงการต่างๆ ถูกกฎหมายก็ให้เขียนมา”

ร.อ.ธรรมนัสพูดกับ พล.อ.ประยุทธ์ อีกว่า “ท่านไม่เคยมาดูแล ไม่ได้เจอ ส.ส.ในพรรค ส.ส.หลายคนไม่เคยได้รู้จัก” พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบกลับไปว่า “ถ้าเป็นปัญหาแบบนี้ ก็จะไปปรับตัวดู” ร.อ.ธรรมนัสจึงกล่าวว่า “อะไรที่ผิดพลาดไปผมก็ต้องขออภัย แต่สิ่งที่ผมพูดไป พูดไปในฐานะเลขาธิการพรรค ที่ต้องดูแลพรรค ดูแล ส.ส. ส่วนการลงมติวันที่ 4 กันยายนนี้ ไม่ต้องห่วงหรอก แต่รัฐมนตรีบางคนอาจจะได้ไม่เท่านายกฯ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์โชว์ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของ 3 ป. โดย พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปกอด พล.อ.ประวิตร พร้อมพูดหยอกกันอย่างอารมณ์ดีว่า “ถ้า 3 คนอยู่ ก็ต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าไปก็ต้องไปด้วยกัน ยังมีเรื่องราวของทั้ง 3 คนที่คนอื่นไม่รู้อีกเยอะ” และ พล.อ.ประยุทธ์ย้ำอีก “ถ้าอยู่เราต้องอยู่กัน 3 คน” ก่อนหันไปกระเซ้า พล.อ.ประวิตรว่า “ท่านอยากเป็นนายกฯหรือ” พล.อ.ประวิตร จึงกล่าวตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “จะบ้าเหรอ กูไม่เป็นหรอก มึงเป็นนั่นแหละ”

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตรเคยพูดกับ ร.อ.ธรรมนัส ประโยคหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องว่า “มึงจะให้กูทรยศน้องกูเหรอ” ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์เดินทางกลับมาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่าเคลียร์ใจกับ ร.อ.ธรรมนัส เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่มีอะไร” เมื่อถามย้ำว่ามีการขอโทษกันถึงขนาดไหน ดีลจบและสบายใจแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนเดินเข้าลิฟต์ไปทันที

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรค และ เลขาธิการพรรคทุกพรรคแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่างน้อยให้ได้ 265 เสียงขึ้นไปจะมีจะหายไป 2 เสียงคือของ สส.พรรค พปชร.และพรรค ภท. เนื่องจากป่วยโควิด เมื่อถามว่าสรุปแล้วเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลมีกี่เสียง นายวิรัชกล่าวว่า จะมีประมาณ 269 เสียง หักประธานเหลือ 268 เสียง แต่ถ้ารองประธานโหวต คะแนนจะไม่ลดลง