นายกรัฐมนตรี โต้ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ประสบการณ์ต่างกัน จะอยู่ต่อหรือไม่ เป็นเรื่องของ กระบวนการประชาธิปไตย ยืนยันตำรวจปราบม็อบไม่ได้ใช้อาวุธจริง ท้าเรื่องเงินทอนวัคซีนซิโนแวค ให้ไปหามาว่าใคร
วันที่ 31 ส.ค.2564 เวลา 13.48 น. ที่ อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงต่อข้อกล่าวหาของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรคเสรีรวมไทย ในการอภิปรายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าจำเป็นต้องชี้แจง ในฐานะที่ พล.ต.อ.เสรพิศุทธ์ เป็นรุ่นพี่ตนเอง เพราะหลายอย่างรู้สึกว่าคิดไม่ค่อยตรงกัน ที่อ้างว่าไม่รู้เรื่องนั้นอาจจะประสบการณ์ต่างกัน เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นแค่ ผบ.ตร แต่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี
เรื่องงบประมาณที่อ้างว่าปูทางเพื่อการเมืองถือเป็นเรื่องที่รู้ดีเหลือเกิน เพราะส่วนตัวไม่เคยคิดหรือทำแบบนี้ ยืนยันว่าในงบกลางที่มียอดสูงขึ้นนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 ทั้งสิ้น ไม่ได้นำไปใช้ส่วนอื่น มีการตรวจสอบของสำนักงบประมาณ ไม่สามารถชี้นิ้วสั่งได้ เพราะไม่อยากมีปัญหาเรื่องทุจริต จึงขอให้ไปดูใหม่และขอให้ดูในมุมกว้าง ว่าที่ผ่านมาประเทศเปลี่ยนไปมากมายส่วนเรื่องงบประมาณของ กระทรวงกระทรวงกลาโหม ส่วนตัวได้พูดไปหลายครั้งแล้ว ไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบเคียงกับต่างประเทศ และ เรื่องการเกณฑ์ทหารก็เป็นหน้าที่ในรัฐธรรมนูญของชายไทยที่ต้องเป็นทหาร ยืนยันไม่ได้เอามาใช้งานของกองทัพ แต่เอามาป้องกันชายแดน ความมั่นคงภายในประเทศ ช่วยเหลือภัยพิบัติและโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวตอบโต้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ระบุว่าตนเองไม่รู้กฎหมาย ว่า ไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด แต่รู้ว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างไร เพราะฟังทุกคน การแต่งตั้ง ภายใน สตช. ก็ให้ ผบ.ตร. ไปตั้งคณะร่วมกันพิจารณาขึ้นมา โดยส่วนตัวคิดว่าทำได้ดีกว่าสมัยก่อนมาก จึงขอให้ลองไปดู ซึ่งสิ่งที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็เคยเจอมาแล้วแต่กลับไม่ได้แก้ไข
ขณะที่ข้อกล่าวหาว่า ทำมาตรการต่างๆ เพื่อให้มีคนรักและอยู่ต่อนั้น มองว่าไม่ใช่ เพราะจะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อ เป็นเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย และในสภา ไม่สามารถไปหลอกล่อใครได้ เพราะวันนี้ประชาชนเปิดหูเปิดตามากขึ้น เช่นเดียวกันกับเรื่องปัญหาทุจริตที่ได้ประกาศไปแล้ว มีการดำเนินคดี ทั้งระดับสูง ระดับกลาง และระดับล่าง ไล่ออกและปลดออก พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า รายได้ประเทศในอีก 5 ปี ข้างหน้า จะมีการลงทุนสูงขึ้น เพื่อให้บ้านเมืองมีความมั่นคง มีเสถียรภาพ ไม่ใช่สนับสนุนให้มีความวุ่นวาย ซึ่งทุกคนทราบดี วันนี้กำลังตรวจสอบอยู่ ว่าใครทำให้ บ้านเมืองเสียหาย โดยส่วนตัวไม่ได้ขู่ใครทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่ต้องดำเนินการไป เพราะรัฐบาลทำหน้าที่ในฝ่ายบริหาร อำนาจตุลาการ ไปก้าวล่วงไม่ได้“การที่บอกว่า จะไปใช้อำนาจกับเยาวชน ใช้อำนาจกับเด็ก แล้วมันใช่ที่ควรจะไปกันไหมละครับ แล้ววันนี้กฎหมายมันก็มีอยู่ทุกตัว แล้วท่านบอกผมใช้อาวุธ ผมไม่เห็นตำรวจถืออาวุธจริงสักคน เมื่อกี้ท่านบอกอาวุธจริง ท่านมองไม่ออกเหรอครับ ว่าอันไหนอาวุธจริงอาวุธปลอม อาวุธกระสุนยาง เป็นถึง ผบ.ตร. นะครับ มีแต่ตำรวจถูกยิงทุกวันอยู่นี่ แล้วทำไมถึงมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปใช้ความรุนแรง มันขัดแย้งกับความเป็นจริง ขัดแย้งกันในภาพ เพราะฉะนั้นอย่าเลือกดูภาพในโซเชียล เพราะสุดแล้วแต่ว่าใครจะเอาออกมา แต่ผมยืนยันว่าไม่มีการสั่งการให้ใช้อาวุธจริงทั้งสิ้น ก็คอยดูต่อไปว่าใครจะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนขึ้นมา ด้วยแรงหนุนจากใคร นั่นคือสิ่งที่รัฐบาล ที่ประเทศไทยต้องระมัดระวังที่สุดนะครับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว และว่า ส่วนเรื่องเงินทอนวัคซีนซิโนแวค ขอให้ไปหามาว่าใครได้ ยอมรับการตรวจสอบทุกชนิด ยืนยันว่ารัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ตรวจสอบได้ มีการตั้งเรื่อง แต่ชี้แจงได้ก็จบ แต่ท่านเข้าใจอะไรไม่ได้ถูกต้องเท่าไหร่ ก่อนที่นายกฯจะถอนหายใจทิ้งท้าย
พร้อมทั้งขอบคุณ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ บริจาคเงินช่วยรัฐบาล และกล่าวโจมตีว่าตนเองบริจาคแค่ 3 เดือน เพราะส่วนตัวมีแค่เงินเดือนไม่ได้มีธุรกิจ หรือรีสอร์ต เหมือนครอบครัว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ใครทั้งสิ้น สวดมนต์ทุกวัน เพราะฉะนั้นจะไม่ทำอะไรที่ผิด ส่วนที่พูดเพราะเป็นรุ่นพี่ตนเอง แต่ระวังวันข้างหน้าน้องๆ จะไม่เคารพ เพราะทุกวันนี้เด็กคิดเป็นแล้ว
“จริงๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาพูด เพราะเป็นรุ่นพี่ผม ท่านตำหนิน้องท่านมากไปสักนิดนึง ผมไม่โกรธไม่เคืองท่านอยู่แล้ว เพราะผมให้ พรรคฝ่ายค้านมาชมผมคงไม่ได้ แต่ให้คำนึงถึงความเป็นจริง พร้อมฝากถึงประชาชน ที่ดูอยู่ที่บ้าน ให้ดูหน้าผม ให้ฟังผม ผมพูดจากหัวใจของผม ผมพูดจากสมองที่ท่านบอกว่าน้อยเนี่ยของผมออกมา แต่ท่านอย่าลืมว่าผมมีประสบการณ์ 6-7 ปีมาแล้ว ตรงนี้คือความแตกต่างนะครับ ที่ผมน่าจะรู้มากกว่าท่าน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องโควิด-19 กับเศรษฐกิจว่า จะมีอธิบายกันต่อไป ยืนยันพร้อมทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ เพราะห่วงใยประชาชนและพิจารณาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะมาโดยตลอด
“ในส่วนรายละเอียดรองนายกฯ พร้อมชี้แจงได้หมดทุกตัว ขอให้ฟังด้วย หากไม่ใช่ก็เอาไปตรวจสอบ ไม่ใช่ไปพูดข้างนอกเพราะอาจจะมีปัญหา ไม่ได้ขู่ท่าน เพราะการพูดในสภาต้องระมัดระวัง เพราะประชาชนเข้าใจผิด โอเคนะครับ ขออนุญาตพูดเท่านี้ก่อน ด้วยความเคารพพี่นะครับสวัสดีครับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว