“ศักดิ์สยาม” ถกความคืบหน้า รถไฟฟ้าสายสีแดง กำชับทุกฝ่าย ต้องพร้อมให้บริการ

รมว.คมนาคม ประชุมติดตาม ประเมินผล การให้บริการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ทั้ง 12 สถานี พร้อมกำชับทุกฝ่าย ต้องให้บริการประชาชนได้ ตามมาตรฐานการ ที่กำหนดในทุกมิติ เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการ และ การบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และ สถานีกลางบางซื่อ เพื่อติดตามความคืบหน้า ผลการดำเนินงานการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ผ่านการประชุมทางไกล เมื่อ เวลา 15.00 น. วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม , นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม, นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม, นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง, นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม, นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย , นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย, นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงบประมาณ หัวหน้าหน่วยงานและผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมนายศักดิ์สยามฯ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดให้บริการโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) แบบเสมือนจริง มาตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. 2564 โดยไม่คิดค่าโดยสาร ปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณวันละ 3,073 คน ซึ่ง เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และ นโยบายของรัฐบาลที่ให้ประชาชนงดการเดินทางหากไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาความตรงต่อเวลา และความน่าเชื่อถือในการให้บริการ พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 96.84 และ 99.35 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับการให้บริการเป็นที่น่าพอใจ และได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการในด้านต่างๆ ดังนี้

การเตรียมความพร้อมด้านการเดินรถและการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง มีการปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทางเพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง โดย ขนส่งทางบก และ ขสมก. ได้ปรับปรุงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง เพื่อให้มีรถโดยสารประจำทาง หมวด 1 กรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง และรถโดยสารประจำทางหมวด 4 รองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงทุกสถานี ซึ่ง ได้มีข้อสั่งการให้วิเคราะห์ระบบการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่งให้ครอบคลุม และไม่กระทบต่อการสัญจรของประชาชน

การดำเนินการด้านสถานี โดย รฟท. ได้จ้างทำความสะอาด และกำจัดขยะบริเวณสถานีกลางบางซื่อ และบริเวณรถไฟฟ้าสายสีแดง พร้อมจ้างบริการรักษาความปลอดภัยและจราจรบริเวณสถานีกลางบางซื่อและบริเวณรถไฟฟ้าสายสีแดงจำนวน 12 สถานีเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ได้จัดทำประกาศเชิญชวนแล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำรายงานเพื่อขออนุมัติออกประกาศเชิญชวน เสนอคณะอนุกรรมการกำกับการบริหารทรัพย์สินฯ และคณะกรรมการรถไฟฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติ ออกประกาศเชิญชวนต่อไป นอกจากนี้ ยังได้รายงานผลการสำรวจการจัดทำป้ายตามมาตรฐานป้ายสัญลักษณ์และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานอารยสถาปัตย์ ณ สถานีกลางบางซื่อแล้ว

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการฯ ได้รับทราบกรอบการพัฒนาสถานีเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้าในระยะยาว สำหรับสถานีเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารที่สถานีรังสิต สถานีตลิ่งชัน และจุดจอดรถอโศก พร้อมทั้งสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่สถานีเชียงรากน้อย สถานีวัดสุวรรณ และ ICD ลาดกระบัง โดยมอบหมายให้ รฟท. ไปศึกษาในรายละเอียดในการพัฒนาต่อไป

นอกจากนี้ยังได้รับทราบผลการดำเนินการโครงการระบบขนส่งสาธารณะเพื่อการเชื่อมต่อการเดินทางสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (สถานีรังสิต) ตามที่คณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก จ.ปทุมธานี ได้เห็นชอบแผนดำเนินการ ตามผลการศึกษาของ สนข. และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ซึ่งคาดว่าการให้บริการในเส้นทางสายสถานีรถไฟฟ้ารังสิต – ธัญบุรีคลอง 7 จะสามารถเร่งรัดดำเนินการให้สามารถให้บริการได้ทันกับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงอย่างเป็นทางการได้

ด้านการกำหนดราคาค่าโดยสาร และบัตร ได้รับทราบผลการดำเนินงานในประเด็นหลัก ได้แก่ การกำหนดอัตราค่าโดยสาร ความพร้อมเข้าสู่ระบบตั๋วร่วม บัตรโดยสารในการเดินทางร่วม โดยได้มอบหมายให้ รฟท. พิจารณาค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นต้นทุนการดำเนินงานและพิจารณาผลประกอบการจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนในด้านความพร้อมเข้าสู่ระบบตั๋วร่วมภายใต้มาตรฐาน EMV รองรับการใช้งานในรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. และเรือโดยสาร MINE Smart Ferry นั้น สามารถเปิดใช้ระบบการชำระค่าโดยสารตามมาตรฐาน EMV ของรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้ ภายในปลายปี 2564 รวมทั้งเปิดใช้งานกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงได้ภายในต้นปี 2565 และด้านบัตรโดยสารในการเดินทางร่วมได้มอบหมายให้ บมจ. ธนาคารกรุงไทยประสานการหารือร่วมระหว่าง รฟท. ขสมก. จท. ผู้ให้บริการเรือโดยสาร รวมทั้ง รฟม. และ BEM เพื่อให้ได้ข้อสรุปในรายละเอียดโปรโมชั่นส่งเสริมการเดินทางร่วมระหว่างรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) รถโดยสารประจำทางของ ขสมก. เรือโดยสารและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รวมทั้ง แนวทางการดำเนินงานในด้านเทคนิคของบัตรโดยสารและรูปแบบของข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกัน โดยความคืบหน้าการดำเนินงานจัดทำบัตรโดยสารในการเดินทางร่วมกับ รถโดยสารประจำทางของ ขสมก. เพื่อชำระค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายรายเดือนในบัตรเดียวกันนั้น กำหนดให้บัตรดังกล่าว สามารถเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ในระยะเวลา 1 เดือน นับจากวันแรกที่ใช้งานผู้โดยสารสามารถซื้อบัตรโดยสารในการเดินทางร่วมได้ที่เขตการเดินรถตามที่ ขสมก. กำหนดและห้องจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดงพร้อมทั้ง สามารถเติมเงินเข้าบัตรได้หลายช่องทาง เช่น
ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ตู้เติมเงิน รวมทั้ง การเติมเงินผ่าน QR Code การเติมเงินที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ซึ่งการชำระเงินค่าโดยสารในการเดินทางนั้น ผู้โดยสารจะใช้บัตรดังกล่าว ชำระผ่านเครื่อง EDC บนรถเมล์ ขสมก. และแตะเข้า Gate
ของสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งจะทำให้การใช้บัตรโดยสารร่วมดังกล่าวเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็วในการเดินทางเชื่อมต่อ

รมว.คมนาคม ได้มอบนโยบายในการกำหนดอัตราค่าโดยสารสำหรับการให้บริการต้องคำนึงถึงค่าครองชีพของประชาชนในสภาวการณ์ปัจจุบัน และการชดเชยรายได้ของการเดินรถจากการบริหารเชิงพาณิชย์ โดยจะต้องยึดแนวทางการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าที่เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวของประชาชน ลดการใช้พลังงาน และแก้ปัญหาการเกิดมลพิษ เช่น ฝุ่น PM2.5 และพิจารณาการกำหนดค่าแรกเข้าให้มีความเหมาะสม เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดอัตราค่าโดยสารต่อไป

ด้านการพัฒนาสถานีกรุงเทพ คณะกรรมการฯ ได้รับทราบแนวทางการพัฒนาพื้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และแผนการพัฒนาแนวพื้นที่ระหว่างสถานีบางซื่อถึงสถานีกรุงเทพ โดย รฟท. จะสำรวจรายละเอียด และตรวจสอบพื้นที่ รวมถึงอาคารที่จะต้องทำการอนุรักษ์ และจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ที่จะต้องสอดคล้องกับแผนการลดจำนวนรถไฟที่เข้าสู่สถานีกรุงเทพ แผนงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และแผนงานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างสอดรับกัน และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้มีข้อสั่งการให้พิจารณาถึงการอนุรักษ์ความเป็นรถไฟไทยจากสถาปัตยกรรมเดิม และรายได้การพัฒนาเชิงพาณิชย์เพื่อให้สามารถนำมาบำรุงรักษาแหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่ทางรถไฟเดิมโดยการพัฒนาให้เป็นพื้นที่สวนสาธารณะ และร้านค้าชุมชน โดยเน้นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาพื้นที่

นายศักดิ์สยาม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารการให้บริการ หรือร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับการให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage : Bangsue Grand Station หรือ โทรสายด่วน 1690 เพื่อกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำข้อมูลมาใช้ประกอบการพิจารณาพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้เหมาะสม และเป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุดต่อไป