ตะลึง! เส้นทางรวย ผกก.โจ้ ‘พ.ต.อ.ธิติสรรค์’ มาจากชายแดนใต้

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ค้นบ้านพักของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาเจตนาฆ่า พ่อค้ายาบ้า จากการใช้ถุงคลุมศรีษะรีดเงิน 2 ล้านบาท พบเป็นบ้านขนาดใหญ่หลายสิบล้าน รถหรู 13 คันและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีคำถามว่า ผกก.โจ้ ร่ำรวยมากจากไหน 

มีคำถามว่า อดีตผู้กำกับหนุ่มคนนี้ ร่ำรวยมาได้อย่างไร?? ทำธุรกิจอะไรมา ซึ่งข้อมูลวงใน ระบุว่า พื้นฐานเดินทางบ้าน ‘พ.ต.อ.ธิติสรรค์’ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมาแต่ต้น แต่เป็นเพราะเขาเองที่ “หาเงินเก่ง” มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ และที่ทำให้ชีวิตพลิกผันเข้าขั้น “เศรษฐี” ขณะดำรงตำแหน่ง “พ.ต.ท.ธิติสรรค์” ตำแหน่ง รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.4 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ นอกจากทำคดียาเสพติดรายใหญ่จนสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมังแล้ว

ก็ยังทำให้ได้คลุกคลีตีโมงกับผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่ๆ ในวงการธุรกิจ “สีดำ” รวมไปถึงเปิดทางให้เข้าสู่วงการธุรกิจ “รังนก” ที่เป็นธุรกิจ “สีเทา” เกี่ยวกับอิทธิพลมาเฟีย อีกด้วย

ว่ากันว่า จากคอนเนกชันธุรกิจสีเทา ทำให้เขาเห็นโอกาสทำมาหากินกับ “รถหรู และซูเปอร์คาร์” แบบชนิดที่คาดกันไม่ถึง

“ผู้กำกับโจ้” เริ่มจากเลือกรถหรูที่ฝั่งมาเลเซีย เพราะราคาถูกกว่าไทยเยอะ ยกตัวอย่าง BMW ราคาอยู่ที่ประมาณ 4 แสน ลงทุนซื้อที่มาเลย์แล้วลักลอบเอาเข้าไทย จากนั้นทำทีปั้นคดีว่า “จับรถ” โดยไม่มีคนเกี่ยวข้อง ทำนองเจอรถต้องสงสัย นำเข้าผิดกฎหมาย

คดีแบบนี้ปลายทางจะทำให้รถถูกส่งให้ศุลกากร แล้วเมื่อคดีเสร็จสรรพ ศุลกากรก็จะนำออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล สมมติ ว่า BMW คันดังกล่าว ประมูลได้ในราคา 2 ล้าน สิ่งที่ “ผู้กำกับโจ้” จะได้ตามมา คือ 1. รางวัลนำจับ และ 2. ค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้าน หรือ 900,000 ทันที
เท่ากับว่า รถ BMW คันนี้ หักทุน 400,000 บาทแล้ว ผู้กำกับโจ้ จะได้กำไร 500,000 บาท

นายตำรวจหนุ่มโจ้ ทำลักษณะนี้หลายครั้ง มีรถหรู-สปอร์ตคาร์ หลายยี่ห้อที่นำเข้าจากมาเลย์ ด้วยวิธีลงทุนเองจับเอง ส่งศุลกากร บางคันจะเก็บไว้ใช้เอง ก็ฮั้วกับเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ ปล่อยราคาถูกๆ หรือถอดอะไหล่ ถอดอุปกรณ์บางอย่างออกให้ราคาตก
ช่วงพีกๆ กรมศุลฯ จัดประมูลรถลักษณะอย่างนี้ทุกเดือน เดือนหนึ่งก็ราวๆ 400 คัน ว่ากันว่า เป็นรถในเครือข่ายของ ผู้กำกับโจ้ เสีย 50%
คำนวณดูเอาว่า แต่ละเดือน “ผู้กำกับโจ้” จะมีรายได้เท่าไหร่ ? แถมเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย เพราะเป็นรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ที่ศุลกากรต้องจ่ายตามกฎ

ตอนหลังถูกจับตา ศุลกากรจึงต้องยกเลิกประมูลรถที่มีที่มาจากฝั่งมาเลย์ แต่ก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันถึงทุกวันนี้ ว่า เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องใช้สำนักงานในศุลกากร เป็น “ผู้กำกับโจ้” อภินันทนาการไว้ให้ราชการใช้จำนวนมาก
นี่เป็นเรื่องราวที่เล่าขานในแวดวงตำรวจ ถึงเส้นทางร่ำรวย ไฮโซ มีเงินมีทอง เป็นเจ้าของซูเปอร์คาร์ ทั้ง ลัมบอร์กินี ปอร์เช่ เฟอร์รารี่ BMW และยี่ห้อดังอื่นๆ ของ “ผู้กำกับโจ้” ที่ไม่ธรรมดา ส่วนเส้นทางอื่นเหมือนที่เกิดขึ้นกับพ่อค้ายาที่นครสวรรค์ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน แต่จากการรับผิดชอบปราบปรามยาเสพติดมานาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นครั้งแรก

จึงไม่แปลกว่าทำไม ผู้กำกับโจ้ถึงร่ำรวย มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย