หน่วยงานยึดครอง อิสราเอลเริ่มปรับปรุงมัสยิดอิบรอฮีมี ในเมืองเฮบรอน โดยมีการสร้างทางเดินในอาคาร และติดตั้งลิฟต์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว อันเป็นการฝ่าฝืน กฎหมายระหว่างประเทศ หลังยูเนสโก ประกาศให้มัสยิดอิบรอฮีมี เป็น มรดกโลก
ทหารอิสราเอลตั้งเป้าจะยึดพื้นที่ลานและส่วนต่าง ๆ ของมัสยิดราว 300 ตารางเมตร โดยมีการจัดสรรเงินจำนวน 0.62 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการนี้แล้ว โดยเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา นาฟตาลี เบนเนตต์ รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันตนเอง ได้ออกคำสั่งเวนคืนส่วนหนึ่งของมัสยิดอิบรอฮีมี ที่มีการทำโครงการสร้างลิฟต์ โดยลิฟต์นี้จะใช้อำนวยความสะดวกแก่ชาวยิวให้สามารถเข้าถึงศาสนสถานที่เป็นของมุสลิม
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของถิ่นปาเลสไตน์ ได้เรียกร้องให้ยุติโครงการ เนื่องจากการก่อสร้าง จะอยู่บนที่ดินที่หน่วยงานวากัฟของปาเลสไตน์ (Palestinian Waqf Islamic Trust) เป็นผู้ดูแลอยู่ แต่ ศาลฎีกาของอิสราเอลปฏิเสธคำร้อง ที่ยื่นโดยหน่วยงานเทศบาลเมืองเฮบรอน เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
แผนการของอิสราเอลในการยึดมัสยิดอิบรอฮีมี ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยในปี 2017 ยูเนสโก ได้รวมมัสยิดอิบรอฮีมี และ เมืองเก่าเฮบรอน ขึ้นเป็นมรดกของชาวปาเลสไตน์
เป็นความพยามของยิว ที่กำลัง เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เพื่อบิดเบือนให้เข้ากับศาสนายูดาย การตั้งถิ่นฐานและผู้ตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลทั้งหมดอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์อย่างผิดกฎหมาย