จับตา!! รัฐบาล”ประยุทธ์”จ่อกู้ทะลุ GDP แต่ยังแก้วิกฤตโควิด ไม่สำเร็จ

อันที่จริงคนของ พรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่ว่าจะเป็น สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง หรือ พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค พท.ทางด้านเศรษฐกิจ ออกมาแสดงความเป็นห่วงตัวเลขเศรษฐกิจอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้สาธารณะพุ่งชนเพดานกว่า 60% ของจีดีพี ปัญหาหนี้ครัวเรือนทะลุ 90%

ขณะที่ ปัญหาจัดเก็บภาษีช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 64 หลุดเป้าไปเกือบ 2 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลยังมือเติบจัดงบประมาณขาดดุลสูงขึ้นทุกปี แถมกู้ฉุกเฉินอีก 2 ครั้ง 1.5 ล้านล้านบาท แต่นำไปใช้จ่ายสะเปะสะปะ ไม่ได้ช่วยดันจีดีพี

ที่สำคัญขนาดกู้เงินมามากมาย แต่ปัญหาระบบสาธารณสุขกลับประจานความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าไอ้โน่นก็ขาดแคลน ไอ้นี่ก็ไม่พอ เจ้าหน้าที่ด่านหน้าต้องร้องขอบริจาคจากประชาชน

ที่น่าเป็นห่วง คือ คนไทยทั่วประเทศ เพิ่งได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปเพียง 21.71 ล้านโด๊ส (28 ก.พ.-10 ส.ค. 64) พูดง่าย ๆ ว่ายังไกลจากเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ 100 ล้านโด๊ส ภายในสิ้นปี 64 ดังนั้นสภาพเศรษฐกิจตั้งแต่เดือน ส.ค.-ธ.ค. 64 คงทรุดหนัก ผู้คนจะตกงานกันมากขึ้น รัฐจะเก็บภาษีจากที่ไหนมาใช้จ่าย ถ้าสภาพบ้านเมืองและเศรษฐกิจยังเป็นแบบนี้

สัปดาห์ที่แล้ว ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. 64 ปรับลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5  โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ 13 จังหวัด คาดว่าเศรษฐกิจเสียหาย 2-3 แสนล้านบาท/เดือน แต่เดือนส.ค.เพิ่มเป็น 29 จังหวัด เศรษฐกิจเสียหายเพิ่มเป็น 3-4 แสนล้านบาท รวม 2 เดือนเสียหาย 5-7 แสนล้านบาท ทำให้จีดีพีติดลบ 3%

ถ้ารัฐบาลคุมโควิดได้ภายในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ จากนั้นเข้าสู่การฟื้นฟู ซึ่งเงินกู้ 5 แสนล้านบาทไม่พอแน่นอน ต้องกู้เพิ่มอีก 5 แสนล้านบาทอย่างน้อย เพื่อใช้เงิน 1 ล้านล้านบาท มากระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้อาจติดลบ 0-2% แต่ถ้าคุมโควิดไม่อยู่ และล็อกดาวน์ต่ออีก 1 เดือน ตลอดทั้งปี 64 จีดีพีอาจติดลบ 2-4%

ผู้คนจำนวนมากถามกันบ่อย ๆ ว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งนายกฯไปเพื่ออะไร? ถ้าอยู่แล้วคนส่วนใหญ่ไม่มีอนาคต! แต่สุดท้ายก็ใช้ “ทีมงานไอโอ” ออกมาปั่นมุกเก่า ๆ ว่า พล.อ. ประยุทธ์ต้องยังอยู่เพื่อรักษาสิ่งโน้นสิ่งนี้ไว้ อ้างเหตุผลอยู่แค่นี้จริง ๆ แล้วก็ปล่อยให้ “มนุษย์เงินเดือน” อย่างพล.อ.ประยุทธ์เข้ามากู้เงินแจกเป็นเบี้ยหัวแตก!

ใครที่ได้เงินแจกก็ไม่ต้องขอบคุณรัฐบาล เนื่องจากเป็นเงินที่ลูก-หลานต้องใช้คืนในอนาคต เมื่อก่อหนี้ไว้เยอะ อนาคตต่อจากนี้ก็ต้องใช้หนี้เยอะ สุดท้ายคือไม่มีเงินมาพัฒนาประเทศ อย่าไปเคลิ้มกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ขยันกู้เงินมาแจกเรา เพราะนี่คือเงินภาษี และเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ ทำให้ประเทศและคนไทยเสียวินัยทางการเงิน เห็นได้ชัดปี 63-64 มีการกู้ฉุกเฉินนอกงบประมาณ 1.5 ล้านบาท นำมาแก้ปัญหาโควิด-19 ไม่มากนัก แต่เงินกู้ใกล้หมดแล้ว เนื่องจากเก็บภาษีพลาดเป้า ขณะที่ยังเหลือเกือบ 2 เดือน จึงจะสิ้นปีงบประมาณ 64

เงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาท หากเจียดไปซื้อวัคซีนไฟเซอร์โด๊สละ 1,000 บาท  100 ล้านโด๊ส เป็นเงินแค่ 1 แสนล้านบาท เท่านั้น! แต่นี่เพิ่งฉีดวัคซีนไปได้แค่ 21.71 ล้านโด๊ส แถมในจำนวนนี้เป็นวัคซีนที่คนไทยควักเงินซื้อเองส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งมาจากการบริจาคของอเมริกา-ญี่ปุ่น แต่เงินกู้ใกล้หมดเกลี้ยงแล้ว

เอวัง ก็มีด้วยประการเช่นนี้ !!