รมว.สาธารณสุข แจง พ.ร.ก.จำกัดความรับผิด สำหรับบุคลากรสาธารณสุข ยังเป็นแค่ร่าง ต้องฟังเสียงหลายฝ่าย ย้ำเจตนาของกฎหมาย คือ คุ้มครองคนทำงานที่ซื่อสัตย์สุจริต แต่เมื่อเผชิญกับโรคภัยอุบัติใหม่ทำให้เกิดความกังวล ก็ต้องหาอะไรมาปกป้อง
วันที่ 10 ส.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทุบรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นการวิพากษ์ วิจารณ์ ร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า กฎหมายฉบับนี้ ยังเป็นแค่ร่าง และยังเหลืออีกหลายขั้นตอน กว่าจะได้ใช้ ต้องฟังเสียงอีกหลายฝ่าย ส่วนที่กังวลว่า ฝ่ายการเมืองหมกเม็ด นิรโทษกรรมตัวเอง อันที่จริง กฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้เกิดจากฝ่ายการเมือง มีการเสนอขึ้นมา และ เจตนาของกฎหมายคือคุ้มครองคนทำงาน ที่ทำด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต
สิ่งที่ทำให้คนทำงานกลัว เพราะเขาต้องเผชิญกับโรคอุบัติใหม่ ทั้งส่วนที่รักษา ทั้งส่วนที่ควบคุมโรค ทั้งส่วนที่ดูแลเรื่องทรัพยากรต่างๆ ในการรับมือกับโรคนี้ มันไม่มีสูตรตายตัว ทุกอย่างใหม่หมด คนทำงานไม่ว่าจะเป็นใคร ระดับไหน ก็มีความกังวลใจทั้งนั้น ขอถามว่า เวลาจัดซื้อยา จัดซื้อเวชภัณฑ์ เป็นเรื่องของใคร คำตอบ คือ องค์การเภสัชกรรม ส่วนเรื่องจัดหาวัคซีน ก็เป็นเรื่องของบอร์ด ซึ่งข้างในมีสถาบันวัคซีน กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม และฝ่ายผู้ผลิต ฝ่ายนโยบายไม่เข้าไปแทรกแซงอยู่แล้ว คนที่ดูแลในแต่ละขั้นตอน ก็ชื่อขึ้นต้นด้วยนายแพทย์กันเกือบหมด คนกลุ่มนี้ เขาต้องมั่นใจ ในการปฏิบัติหน้าที่
ตนทราบว่า ทุกท่านตั้งใจทำให้มันดีแต่ก็มีความกังวลในการทำงาน ก็ต้องหาอะไรมาปกป้องคนทำงานบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้ว ใครจะกล้าทำงานให้ประเทศชาติ เรื่องนี้ ทางผู้บังคับบัญชา ท่านปลัดฯ ท่านเข้าใจ ก็ผลักดันกฎหมายฉบับนี้ออกมา ส่วนตัว ก็รับพิจารณา เพราะคนที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ รอบคอบ เพื่อให้การจัดการโรคมีประสิทธภาพ ต้องได้รับการปกป้อง ในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวง เมื่อคนทำงานรู้สึกว่าเสี่ยง มันก็ต้อง หาทางออก