“ทักษิณ” บอกชีวิตเสี่ยงมาเยอะ คุกเรื่องเล็ก อะไรจะเกิดคือเกิด พร้อมให้คำปรึกษา “พล.อ.ประยุทธ์” ยัน อยากกลับไทยมาช่วยประเทศ ไม่หวังตำแหน่ง แนะ “3 ป.” กลับไปอยู่บ้าน
แฟนเพจเฟซบุ๊ก The Room 44 ได้เผยแพร่การให้สัมภาษณ์ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงข้อแนะนำ ต่อ “พี่น้อง 3 ป” ประยุทธ์ , ป๊อก และ ป้อม ว่า ถ้าจบในเวลาอันสมควร ก็กลับไปอยู่กับลูกกับภรรยาได้ใช้เงินสบายๆ แต่ถ้าอยู่ไปโดยที่เขาไม่พึงปรารถนา อยู่ไปก็ไม่มีความสุข เดินไปไหนคนก็ซุบซิบ ตอนนี้เงินก็มีมากแล้วไปใช้เงินสบายๆ ดีกว่า ไม่มีอะไรอยู่กับเราถาวร ตอนนี้คนที่ดูแข็งแรงที่สุดคือ “ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วน “ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ค่อยแข็งแรง
สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็เรื่องในหัวเยอะ ควรจะกลับไปสบายดีกว่า ให้รุ่นหลังทำงาน แค่ห่วงใยบ้านเมืองก็พอแล้ว อย่าคิดมาก และคนที่อยู่ใกล้ต้องกล้าพูดว่านายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งที่เกินขีดความสามารถของตัวเองแล้ว ชีวิตตัวเองมีความสามารถแค่เป็นผู้บัญชาการทหารบก เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะแสดงออกถึงความไร้ความสามารถตลอดเวลา
ส่วนคำถามว่าจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายทักษิณ คิดว่าส่วนตัวยังมีประสบการณ์และสมองในการช่วยประเทศได้ โดยการให้คำปรึกษาและคำแนะนำได้ วันนี้ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ อยากปรึกษาก็ยินดี เพราะรักประเทศ ห่วงใยประชาชน อะไรที่ทำให้ประเทศประชาชนก็ยินดี ไม่หวงความรู้ประสบการณ์ แต่คนไทยติดคำว่ากลัวเสียหน้า แต่ส่วนตัวไม่กลัว
ขณะที่จะกลับประเทศไทยเมื่อไรนั้น นายทักษิณ ตอบว่า ยังไม่ได้ดูฤกษ์ดูยาม แต่ตัดสินใจเรียบร้อยแล้วว่า กลับแน่นอน อะไรจะเกิดก็คือเกิด เมื่อถามต่อไปว่าจะกลับวันไหน นายทักษิณ ตอบว่า อะไรจะเกิดก็คือเกิด เสี่ยงตายกับชีวิตมาเยอะแล้ว เสี่ยงคุกมันเรื่องเล็ก เมื่อสปิริตออฟไทม์ (Spirit of Time) มันให้ ก็จะบินกลับไปทันที ไม่ต้องเตรียมพิธีรีตอง ง่ายๆ ขึ้นเครื่องบินไปลง ก็จบ อะไรจะเกิดก็ไม่เป็นไร เกิดได้หมด จะเอาเข้าคุกก็เอา จะเอาอย่างไรบอก ไม่มีปัญหาสักเรื่อง แต่ให้รู้ว่ากลับไปอยากช่วยบ้านเมืองเท่านั้นเอง ไม่ต้องมีตำแหน่งไม่ต้องมีอะไรเลย
ทั้งนี้ เมื่อมองจากข้างนอกเข้ามาบทบาทของทหารยังมีอิทธิพล จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนอกระบบหรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า ทหารจริงๆ แล้ว ก็อย่างนั้น วันนี้ก็อย่างว่า ปฏิวัติทีก็รวยกันที เพิ่มเบี้ยเลี้ยงที สองขั้นพิเศษที ผลักกันมา วันนี้เบ่งบานมากควรจะพอแล้ว ขณะที่คำถามว่าจะมีปฏิวัติอีกหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่าแน่นอน ถ้าทำอีกก็ตัวใครตัวมัน เจเนอเรชัน (Generation) ที่อดทนและสู้ที่สุดในการทำมาหากิน คือเจเนอเรชัน เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) คือรุ่นของตน ต่อไปเจเนอเรชันเอ็กซ์ (Gen X) จะเข้ามาบริหารประเทศ คือ พวกคนที่อายุ 50 กว่าปี
ต่อไปเราต้องรีบมอบบ้านเมืองให้อยู่ในการดูแลของเจเนอเรชันวาย (Gen Y) กับเจเนอเรชันแซด (Gen Z) ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะพูดกันคนละภาษา จะตกเทรนด์ ซึ่งทหารถ้าไม่ปรับปรุงหลักสูตร ยังใช้วิธีบริหารจัดการแบบยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จะพาบ้านเมืองดิ่งลงเหว แม้แต่การซื้ออาวุธ ก็ต้องเลิกใช้อาวุธโบราณ วันนี้โลกไปถึงขั้นไหนแล้ว ระบบการยิงของเครื่องบินรบใช้เลเซอร์แล้ว ถ้าเรายังใช้แบบเดิมอยู่เป็นเรื่องน่าละอาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่เรื่องพรรคพลังประชารัฐ จับมือกับ พรรคเพื่อไทย นายทักษิณ กล่าวว่า อุดมการณ์คนละแนว เพียงแต่ศิษย์เก่า ไทยรักไทยไปอยู่ที่นั้นหลายคน แต่คนละแนว แนวพลังประชารัฐ เป็นแนวของการให้ปลากิน เพื่อไทยเป็นแนว ให้เบ็ดไปตกปลากินได้ทั้งชีวิต มันคนละแบบ