BRN แถลงการณ์!! โจมตีรัฐบาลไทย ไร้ประสิทธิภาพ แก้วิกฤตโควิด ให้ชาวมุสลิม

กลุ่มบีอาร์เอ็น ออกแถลงการณ์ เป็นภาษา”มาลายู” เนื่องในวันรายออีดิลอัฎฮา มีเนื้อหากล่าวถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิดของรัฐบาล โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

วันที่ 21 ก.ค.2564 กลุ่มบีอาร์เอ็น ได้ออกแถลงการณฺ โจมตีรัฐบาลไทย เนื่อในวันรายออีดิลอัฎา ระบุว่า เนื่องจากรัฐบาลนักล่าอาณานิคมเผด็จการล้มเหลวในการรับมือโรคระบาดโควิด-19 เพราะพวกเขาไม่ให้ความสำคัญแก่ชีวิตและสุขภาพของประชาชน ยิ่งไปกว่านั้น สยามก็ไม่เคยให้ราคาอะไรกับชีวิตของประชาชามลายูปาตานี ตั้งแต่วันก่อนจนถึงบัดนี้ พวกเขามองว่า พวกเราเป็นชนชั้นที่สามที่อยู่ในอาณานิคม

“ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบโรคระบาดที่นับวันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น รัฐบาลเผด็จการฉวยโอกาสเพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากงบประมาณที่จัดสรรเพื่อบรรเทาและช่วยเหลือประชาชน คอรัปชั่นลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลกลางอย่างเดียว แต่ยังแพร่หลายในรัฐบาลท้องถิ่นและระดับท้องที่ด้วย ซึ่งชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของโครงสร้างและการปฏิบัติหน้าที่ของนักการเมืองที่อยู่ในรัฐบาลนักล่าอาณานิคมที่กระหายอำนาจ ตำแหน่งและทรัพย์สินส่วนตัว แต่พวกเขาก็ไม่มีจริยธรรมและไม่ปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชนทั่วไปเลย”

บีอาร์เอ็น ยังระบุอีกว่า รัฐบาลได้ฉวยโอกาสจากการล็อกดาวน์ โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้าน “เจ้าหน้าที่หลายพันนายมาโจมตีกองทัพนักต่อสู้ปาตานีที่กำลังเก็บตัวเพื่อให้ช่องทาง แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ภายใต้โรคระบาดโควิด-19 แต่พวกเขาก็ไม่คำนึงถึงความเดือนร้อนของประชาชนปาตานีเลย”

“สิ่งที่น่าเศร้าคือที่ผ่านมา รัฐบาลเผด็จการสยามทำให้ประชาชนอยู่ในสภาวะยากลำบากทางเศรษฐกิจ แต่ให้การสนับสนุนต่อนักลงทุนและนักธุรกิจรายใหญ่ การแสวงหาผลประโยชน์ (exploitation) ลักษณะนี้เป็นนโยบายของนักล่าอาณานิคมเผด็จการในด้านต่างๆ การแสวงหาผลประโยชน์หรือการฉวยโอกาสท่ามกลางความเดือดร้อนนั้นทำให้ประชาชนตระหนักว่า พวกเขาจำเป็นต้องลุกขึ้นเพื่อปลดแอกตัวเองจากการกดขี่”

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์มีการย้ำว่า ประชาชนต้องเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง เนื่องจากก่อนหน้านั้น ประชาชนเชื่อว่าตัวเองไม่มีความสามารถใดๆ “ทัศนะคติเช่นนี้ต้องเปลี่ยน เมื่อประชาชนมีจิตสำนึก พวกเขาจะสามารถลุกขึ้นได้”

“พวกเรา บีอาร์เอ็น เรียกร้องให้ประชาชนทั้งปวงที่ปาตานีร่วมมือกันเพื่อวางแผนในการบริหารจัดการและกำหนดนโยบายทางสังคมของแต่ละหมู่บ้านเพื่อควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และรับมือปัญหาอื่นๆ ที่อยู่ในสังคมอย่างสอดคล้องกับนโยบายทางสังคมของแต่ละพื้นที่ และในความพยายามของพวกเรา อย่าลืมขอความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า ดุอาอฺ และปฏิบัติละหมาดฮายัตด้วย”