ปชช.กลุ่ม10 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจาก มาตรการ “ล็อคดาวน์” ทั้งนายจ้าง – ผู้ประกันตน มาตรา 33, 39 และ 40 เตรียมรับเงินเยียวยา โดย สำนักงานประกันสังคม จะโอนเข้าบัญชี กลางเดือน ส.ค.64
จากกรณีคณะรัฐมนตรี ได้มีมติ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 เห็นชอบมาตรการเยียวยา นายจ้างและผู้ประกันตน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา
จาก 9 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กิจการก่อสร้าง, กิจการที่พักแรงบริการด้านอาหาร, กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ, กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ, สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า, สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์, สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน, สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชกาการ, สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร ในได้รับการเยียวยา ชดเชยรายได้จากรัฐบาล เป็นเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ สำหรับรูปแบบการให้ความช่วยเหลือ คือ กลุ่มแรงงานสัญชาติไทย ที่อยู่ในระบบผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 จะได้รับความช่วยเหลือเงินจำนวน 2,500 บาท จำนวน 1 เดือน
ขณะที่แรงงานผู้ประกันตน มาตรา 39 และมาตรา 40 สัญชาติไทย จะได้รับความช่วยเหลือ คนละ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน ส่วนผู้ที่ประกอบอาชีพที่ไม่ได้อยู่ในมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่ยังประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน ให้เตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจำนวน 5,000 บาทจำนวน 1 เดือน
เช่นเดียวกันสำหรับแรงงาน ตามมาตรา 33 เดิมกำหนดว่าเหตุสุดวิสัย มีสิทธิ์ได้เงินทดแทนจากการว่างงาน ร้อยละ 50 ไม่เกิน 7,500 บาท ไม่เกิน 90 วัน เพิ่มเป็นได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนนายจ้างจะได้รับความช่วยเหลือสูงสุดไม่เกินจำนวนลูกจ้าง 200 คน อัตรา 3,000 บาทต่อคน จำนวน 1 เดือน
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อสำนักงานประกันสังคมได้รับจัดสรรเงินงบประมาณจากรัฐบาล และตรวจสอบข้อมูลถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 รวมถึงนายจ้างในกิจการเจ้าของคนเดียวที่มีชื่อระบุตามทะเบียนพาณิชย์ ขอให้รีบดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย โดยคาดว่าจะโอนเงินได้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ โดยจะส่งให้ ครม.อนุม้ติ ในวันอังคาร ที่ 20 กรกฏาคม 2564