สลด หดหู่ ศพผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิต ทะลักล้นห้อง รพ.สนามธรรมศาสตร์ เผยต้องเช่าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มอีก 2 คันเพื่อใช้เป็นที่เก็บร่างไร้ชีวิต ลั่น พวกเราจะไม่ยอมแพ้ และพร้อมสู้รบ เพื่อรักษาชีวิตคนไทยให้มากที่สุด
ความคืบหน้าสถานการณ์ติดเชื้อโรคระบาด โควิด-19 ยังคงวิกฤติขึ้นเรื่อย ๆ โดยจากข้อมูล ศบค.ระบุว่า วันนี้ 13 ก.ค. 2564 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,685 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 56 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตที่มากขึ้นทำให้เริ่มมีปัญหากับสถานที่เก็บศพที่ไม่เพียงพอ อย่างที่ รพ.สนามธรรมศาสตร์ กำลังประสบปัญหาอยู่ โดย ล่าสุดที่เพจเฟซบุ๊ก “โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์” ได้โพสต์ อัปเดตสถานการณ์โควิด-19 ที่ เปิดมาแล้วถึง 93 วัน ว่า วันจันทร์ที่ 12 ก.ค. วันที่เก้าสิบสามของโรงพยาบาลสนาม และวันที่สามสิบห้าของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์
ข่าวดีเช้าวันนี้คือเราได้ทีมแพทย์ chest med ทั้ง staff fellow และ resident นอกจากสองคนที่แอดมิทอยู่ที่รพ สนาม กลับมาทำงานแล้ว หลังจากกักตัวไปแปดวันและ swab สองครั้งแล้ว ผลเป็นลบ แต่ข่าวร้ายก็คือเราต้องกักตัวทีมแพทย์ ortho อีกนับสิบรายเนื่องจากวันนี้มี resident ortho ที่ดูแลผู้ป่วยที่เพิ่งพบเมื่อวานว่าเป็นบวก ติดเชื้อจากผู้ป่วยและมีผลตรวจเป็นบวกด้วย กับมีผู้ช่วยพยาบาลอีกสองคนในสองหน่วยงานที่ต่างกันก็มีผล+ด้วยเช่นกัน
ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ทั่วประเทศของวันนี้ที่มีมากกว่า 8,600 คน เสียชีวิต 80 คน ยังอยู่ในเกณฑ์มากผิดปกติตามที่ ได้ประเมินเอาไว้ พรุ่งนี้หรือมะรืนตัวเลขคงสูงกว่านี้มาก และน่าจะผ่านหลัก 10,000 ไป เพราะเราเริ่มนโยบายตรวจให้มากและให้ใช้ rapid test ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตก็คงจะสูงตามไปด้วย เมื่อวานมีการส่งผู้ป่วยโควิดอาการหนักถึงขนาดต้อง CPR กันในห้องฉุกเฉินเข้ามาที่ รพ.ถึง 4 ราย แต่เราสามารถปั๊มหัวใจจนมีสัญญาณชีพกลับคืนมา และส่งเข้ารักษาต่อใน ICU ได้เพียง 2 รายเท่านั้น
สถานการณ์ที่หนักหนาขึ้นเรื่อย ๆ คงทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิดในโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ทั้งการที่ธรรมศาสตร์มีหน่วยนิติเวชที่รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ปทุมธานีและใกล้เคียงอยู่ แม้จะมีเคสผู้ป่วยเสียชีวิตที่บ้าน แต่ก็จะต้องถูกส่งมาตรวจชันสูตรที่นี่ด้วย จำนวนผู้เสียชีวิตที่มากขึ้นทำให้เราเริ่มมีปัญหากับความพอเพียงของสถานที่เก็บศพ วันนี้เราจึงได้เตรียมเช่าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มสำหรับการนี้อีก 2 ตู้แล้ว
อันที่จริงเรื่องทำนองนี้ไม่ควรจะบอกออกไปต่อสาธารณะ แต่การที่เราแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบก็เป็นความตั้งใจที่จะบอกเล่าความเป็นจริงที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ หรือที่จะต้องเผชิญต่อไปในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์หน้าให้ทุกๆฝ่ายทราบ และเตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับระบบสาธารณสุขของเราในอีกไม่กี่วันที่จะมาถึงนี้ แต่ที่นี่เราก็ไม่ได้นิ่งเฉยรอรับสถานการณ์ด้วยการเตรียมคอนเทนเนอร์เพิ่มไว้เท่านั้นหรอกนะ พวกเราที่นี่ขวนขวาย ขุดสนามเพลาะ ปรับปรุงค่ายคูประตูหอรบ เตรียมหาอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่ม และปรับกำลังรบกัน เพื่อเตรียมรบแตกหักครั้งสุดท้ายในสัปดาห์สองสัปดาห์นี้ด้วยเหมือนกัน
วันนี้พวกเราตัดสินใจสร้างห้อง negative pressure ขนาด 150 ตรม.ขึ้นที่ห้องฉุกเฉิน ER เพื่อรองรับ และกลั่นกรองผู้ป่วยฉุกเฉินที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ก่อนที่จะผ่านเข้าไปใน รพ. การเพิ่มพื้นที่เฉพาะรองรับผู้ป่วยฉุกเฉิน PUI ได้ระดับสูงสุดถึง 15 คน พร้อมกันภายในห้องความดันลบใน ER นี้ น่าจะทำให้มาตรการป้องกันการติดเชื้อของเรามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น โดยเฉพาะภายใน ER ซึ่งเป็นประตูเดียวที่จะผ่านเข้าสู่ทุกวอร์ดผู้ป่วยใน ของโรงพยาบาลได้
สถานการณ์ที่โรงพยาบาลสนามวันนี้เรารับผู้ป่วยใหม่เข้ามาได้ 15 คน และส่งผู้ป่วยกลับได้ 39 คน ทำให้จำนวนรวมผู้ป่วยที่มีอยู่ที่ 307 คน จำนวนของผู้ป่วยอาจจะต่ำกว่า 400 มาแล้ว แต่ “คุณภาพ” ของผู้ป่วยก็ต่างไปจากเดิมมาก เพราะผู้ป่วยหลายสิบคนได้เปลี่ยนเป็นผู้ป่วยเคสสีเหลืองไปแล้ว โดยไม่สามารถส่งกลับไปดูแลที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ซึ่งมีคนไข้โควิดเต็มล้นได้ วันนี้ รพ.สนาม จึงใกล้จะกลายเป็น รพ.หลักมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่เรายังคงมีกำลังบุคลากรเท่าเดิม แต่มีภาระงานดูแลผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มมากขึ้นโดยตลอด
แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยจะยังไม่เต็มทุกเตียงก็ตาม การขอส่งผู้ป่วยอาการหนักเฉพาะรายกลับเข้าใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือให้แพทย์เฉพาะโรคนั้นใน รพ.หลัก ดูแลรักษากลางดึก จึงเป็นภาระงานยุ่งยากที่เกิดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการ refer ผู้ป่วยเคสโควิด ซึ่งบุคลากรทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมมาตรการและการป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้ออย่างเต็มที่ในทุก ๆ กรณี
ภาระงานที่มีความสุขทั้งผู้ได้รับบริการและบุคลากรตลอดจนอาสาสมัครของเราต่างก็มีความสุขไปด้วยก็มีอยู่ด้วยนะ คือการให้บริการฉีดวัคซีน Astra ที่ยิม 4 วันนี้เราให้วัคซีนตามคิวนัดไปได้ทั้งสิ้น 1897 คน และเรายังคงยืนยันจะให้วัคซีนAstra ตามคิวนัดต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงวันที่ 18 กรกฎาคมอย่างแน่นอน จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่น่าจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจในสัปดาห์นี้ ภาระงานที่ล้นท่วมอยู่แล้วก็คงจะหนักมากยิ่งขึ้นอีก บุคลากรของเราทั้งแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ เหนื่อยหนักและตรากตรำมาหลายเดือนแล้ว แต่พวกเราก็ยังคงยืนยันที่จะบอกว่า
“พวกเราพร้อมนะ สำหรับการรบครั้งสุดท้าย ที่กำลังจะมาถึงในสัปดาห์นี้ เราจะรบเพื่อรักษาชีวิตของผู้คน รักษาระบบสาธารณสุข และรักษาประเทศชาติของพวกเราเอาไว้ จนสุดกำลังความสามารถของพวกเรา จนกระทั่งหมดกำลังที่จะรบต่อไปอีกได้ และพวกเราสัญญาว่า เราจะไม่ยอมแพ้”