“อับดุลอายี” ขอรัฐให้ช่วยผ่อนผันค่ากักตัว ” นศ.ไทยในตุรกี” ชี้ ค่ากักตัว14วัน แพงกว่า ค่าตั๋วเครื่องบิน พร้อมขอ ให้ อปท.จัดเลี้ยงอาหารให้ชาวบ้านที่อยู่ในศูนย์กักตัว รวมทั้งค่าเบี้ยงเลี้ยงให้ จนท.ที่ต้องอยู่ยาม 24 ชม.
วันที่ 1 ก.ค.2564 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติปรึกษาหารือ นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส. ยะลา เขต 3 พรรคประชาชาติ (ปช.) ได้หารือประธานสภาผู้แทนราษฎร 4 ประเด็น ดังนี้ 1. นักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ในประเทศตุรกี 9 คน ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยมีเงื่อนไขว่าต้องถูกกักตัว 14 วันในประเทศไทย แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้แก่ภาครัฐในการกักตัวนั้นสูงกว่าค่าตั๋วเครื่องบิน จึงขอให้ประธานสภาฯ ช่วยเหลือผ่อนผันค่าใช้จ่ายในการกักตัวด้วย
2. มาตรการปิดหมู่บ้านในจังหวัดยะลาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยผู้ติดเชื้อที่อยู่ในศูนย์กักตัวทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดเลี้ยงอาหาร 3 มื้อแล้ว แต่ยังมีปัจจัยบางประการที่ยังไม่ครอบคลุมในการใช้จ่ายงบประมาณ เช่น ค่านมเด็ก และผ้าอ้อม เพราะมีเด็กถูกกักตัวด้วย จึงไม่สามารถเบิกเงินได้ เป็นภาระให้แก่ผู้ดูแล จึงขอให้ประธานสภาฯ แก้ไขระเบียบข้อบังคับเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนนี้ได้
นายอับดุลอายี กล่าวต่อว่า 3. สำนักงานวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ (สวค.) จังหวัดยะลา ได้มีหนังสือ ถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดยะลา สามารถจัดซื้อถุงยังชีพมอบให้พี่น้องประชาชนที่กักตัวอยู่ตามบ้านได้ ซึ่งทางฝ่ายปกครองทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. รวมทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบล (รพ.สต.) ได้จัดเวรยามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไม่มีเบี้ยเลี้ยง จึงขอให้จัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ด้วย เพื่อเป็นกำลังใจ และ 4. เงินค่าเลี่ยงภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานราชการในจังหวัดยะลายังไม่ออก จึงขอให้ช่วยประสานติดตามเรื่องนี้ด้วย