อัยการสูงสุด เล็ง!! สั่งฟ้อง “ประธานวิปรัฐบาล” คดีทุจริต สร้างสนามฟุตซอล

“วิรัช รัตนเศรษฐ” ส่อไม่รอด!! อัยการสูงสุด ระบุ จะมีความเห็นสั่งฟ้อง ทุจริตจัดสร้าง “สนามฟุตซอล” โคราช เขต 2 ด้าน อธิบดีอัยการ เตรียมรวบคำฟ้องทั้ง7คดีให้เหลือสำนวนเดียว เพื่อความรัดกุม มั่นใจดิ้นไม่หลุดแน่

วันที่ 4 มิ.ย.2564 นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวว่า ตนได้มีความเห็นสั่งฟ้อง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ ประธานวิปรัฐบาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กับพวกคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล ใน จ.นครราชสีมา ไปแล้วทั้ง 7 สำนวน ส่วนในเรื่องการยื่นฟ้อง ตอนนี้อยู่ระหว่าง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต รับผิดชอบไปร่างคำฟ้องเพื่อยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นางสิริญา อินทามระ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างคำฟ้อง โดยนำทั้ง 7 สำนวน จะรวมฟ้องเป็นคดีเดียวกัน เพื่อให้การบรรยายคำฟ้องครบถ้วนชัดเจน ว่าใครทำอะไร ที่ไหน มีหน้าที่ทำอะไร เกี่ยวข้องกับคดี ในขั้นตอนไหน และเพื่อความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาด้วย เพราะบางคนก็เกี่ยวข้องกับคดี เพียงแค่สำนวนเดียว อย่างเช่น วิศวกร ออกแบบสนามครั้งเดียว แล้วมีการก็อปปี้ แบบไปสร้างต่อๆ กันไปเรื่อยๆ รวมทั้ง นายวิรัช ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการสร้างสนามฟุตซอลในโรงเรียนพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 โดยคาจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเร็วนี้ และต้องทำให้รัดกุม มั่นใจเรามีพยาน หลักฐาน ชัดเจน ผู้ต้องหา ดิ้นไม่หลุดแน่

สำหรับคดีทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมานั้น ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย และเป็นตัวการร่วมกันในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ ตามบทบาทตามหน้าที่และอำนาจที่แต่ละคนมี และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการกระทำความผิด โดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนร่วมดำเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการโดยทุจริต

เริ่มจากขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่น รวม 18 จังหวัด วงเงินงบประมาณ 4,459,420,000 บาท ใน 2 โครงการหลัก หนึ่งในนั้นคือโครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล รวมถึงมีการวางแผนในการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายประการ

เพื่อให้กลุ่มเอกชนที่เป็นพรรคพวกของตนเองได้เข้าเป็นคู่สัญญา และการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอลไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงตรงตามวัตถุประสงค์ โดยมีการชี้มูลการกระทำผิดเป็น 7 สำนวน ส่งอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องไป 1 สำนวนส่วน ที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด