ด่วน!! ตร.รู้ตัวคนร้าย “คดีน้องชมพู่”แล้ว หลังพบหลักฐานสำคัญ จ่อออกหมายจับ

จนท.ตำรวจ ระบุ รู้ตัวคนร้าย สังหาร “น้องชมพู่” หรือ ดญ.อวรวรรณ วงศ์ศรีชา วัย3ขวบ ซึ่งนอนเปลือยกายเสียชีวิต บนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอด แล้ว หลังพบหลักฐานสำคัญ เป็น ดีเอ็นเอ.ของคนร้าย เตรียมออกหมายจับ ปิดคดีดัง

จากกรณีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ หรือ เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา วัย 3 ขวบ ชาวหมู่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ที่หายตัวจากบ้านและพบร่างนอนเปลือยกายเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพัก ประมาณ 5 กิโลเมตร โดย จนท.พิสูจน์หลักฐาน สันนิษฐาน ว่า เสียชีวิตระหว่าง เมื่อ 12 พฤษภาคม 2563 – วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 14.30 โดยที่ผ่านมา มีการชันสูตพลิกศพ มากถึง 3 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถปิดคดีได้ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ หลังพบหลักฐานที่จุดพบศพ กางเกง รองเท้า เส้นขน จำนวน 3 เส้น ที่ ตรวจดีเอ็นเอจนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร รวมถึงเส้นผมน้องชมพู่ที่ถูกหั่น 30 เส้น และคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด 8 รายที่ได้เข้าเครื่องจับเท็จ คือ พ่อ แม่ ของน้องชมพู่ ลุงพล ป้าแต๋น พระครูบารัตน์ พระบุญมา เจ๊บุญมาและพ่อแบม

โดยหลักฐานที่จุดพบศพจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะไขปริศนาว่าใครคือคนร้าย เพราะการขอศาลออกหมายจับคนร้ายในครั้งนี้ ผลที่ระบุชัดเจนคือผลทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยมีการตรวจสอบอย่างละเอียดในเรื่องของดีเอ็นเอที่พบบนบริเวณจุดพบศพ ทั้งหมดอยู่ในระหว่างการสรุปสำนวนคาดว่าจะส่งสำนวนให้แล้วเสร็จเร็วๆนี้

ทางด้าน นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความส่วนตัวของนายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล ระบุว่าตัวเองเป็นทนายความในทุกคดีของลุงพลที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ส่วนคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่นั้นเป็นหน้าที่ของนายษิทรา เบี้ยงบังเกิด ซึ่งตัวเองไม่ขอออกความเห็นในส่วนนี้