เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ ยืนยัน ไม่แสวงหากำไรจากวัคซีนตัวเลือก เน้นจัดให้องค์กรนำไปฉีดให้กับบุคลากรภายใน ไม่บวกเพิ่มแม้แต่บาทเดียว พร้อมมีเงื่อนไขเอกชนต้องซื้อเพิ่มร้อยละ10 เพื่อนำไปบริจาคให้รัฐ ห้ามนำไปขายต่อ และประชาชนที่องค์กรนั้นๆ ดูแลจะได้ฉีดฟรี
จากกรณีที่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดงานแถลงข่าว เตรียมนำเข้าวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” เบื้องต้น 1 ล้านโดส คาดว่าจะมีราคาไม่เกินเข็มละ 1 พันบาท ล่าสุดวันนี้ (29 พ.ค.64) ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ โพสต์เฟซบุ๊ก “Nithi Mahanonda” ยืนยันว่า ราชวิทยาลัยฯ ไม่แสวงหากำไรจากวัคซีนตัวเลือก เน้นจัดให้องค์กรนำไปฉีดให้กับบุคลากรภายในเท่านั้น โดยระบุว่า ต้องขอโทษที่แถลงข่าวพูดเร็วเกินไปมีคนคิดเลขไม่ทันเข้าใจไปว่า #ราชวิทยาลัยฯ จะหากำไรจากวัคซีนตัวเลือก ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงและสรุปสั้นๆ ดังนี้ครับ
ถ้าทุนที่ซื้อวัคซีนมา = X , ค่าขนส่ง = Y , ค่าเก็บรักษา = Z , ค่าประกัน = V ราชวิทยาลัยจะจัดให้ องค์ภาครัฐ องค์กรภาคเอกชนที่ต้องการนำไปฉีดให้กับบุคลากรภายในที่มีชื่อตัวตนระบุชัดเจนในราคา X+Y+Z+V เท่านั้น ไม่มีการบวกเพิ่มแม้แต่บาทเดียว และยังมีข้อกำหนดว่าทุกแห่งจะไปขายให้บุคลากร หรือ คนอื่นต่อไม่ได้เป็นอันขาด แต่ท่านจะไปจ้างสถานพยาบาลใดๆ ฉีดให้ สถานพยาบาลนั้นๆ จะไปคิดค่าบริการอื่นใด เป็นข้อตกลงระหว่างสถานพยาบาลและองค์กรที่รับวัคซีนจากราชวิทยาลัยไป
ดังนั้นประชาชนที่องค์กรนั้นๆ จะดูแล จะได้รับบริการฉีดวัคซีน “ฟรี” ครับ…… อันนี้เป็นการแบ่งเบาภาระงบประมาณและการกระจายการฉีดวัคซีนให้ประเทศร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข…..แต่ประชาชนเป็นคนๆ อาจจะไม่สามารถรับวัคซีน “ทางเลือก” นี้ได้ อย่างไรก็ดี คิวของท่านในวัคซีน “หลัก” ของประเทศจะได้เร็วขึ้น (ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะครับ)
นอกจากนี้ ถ้าเป็นบริษัทเอกชนราชวิทยาลัยมีข้อกำหนดว่าท่านต้องซื้อวัคซีนเพิ่มอีกร้อยละสิบ เพื่อบริจาคให้รัฐนำไปฉีดให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาสและไม่ได้อยู่กับองค์กรใดๆ เช่น ผู้ค้าขายอิสระบนทางเท้า หรือในตลาด