นายกรัฐมนตรี เดินทางไปฉีดวัคซีน เข็มที่สอง แล้ว โดยมี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ ปักเข็มวัคซีน “แอสตราเซเนกา” ให้ ขณะ เจ้าตัวลั่น คนไทยทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน
วันที่24 พ.ค.2564 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เข็มที่ 2 โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าบันทึกภาพ และทำข่าว ซึ่งการเข้ารับการฉีดวัคซีนครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เข้ารับการฉีดด้วยเช่นกันโดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขให้การต้อนรับ
สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เข็มแรกไปเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ตึกสันติไมตรึ ทำเนียบรัฐบาล โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่สองนี้นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ปักเข็มให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการพักรอดูอาการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ทุกคนจะได้ฉีดแน่นอน แต่เป็นไปตามลำดับความรุนแรง ทั้งนี้จะเร่งฉีดตามสัดส่วนของจำนวนประชากร เพิ่มลดอย่างไรค่อยว่ากัน ทั้งนี้ไม่อยากให้เสนอข่าวหลายทาง เพราะอาจจะทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดได้ทั้งนี้ วัคซีนจะมีเข้ามาเพิ่มตามข้อตกลงเจรจา อย่างไรก็ตามวันนี้ทุกประเทศมีปัญหาทั้งหมด ปัญหาอยู่ที่คนถ้าพูดความจริงก็จบ แต่ไม่ว่าวัคซีนชื่ออะไรก็สามารถป้องกันได้ โดยการรักษาควบคู่ไปกับยาที่มีอยู่ เพียงแต่อย่าปล่อยให้เป็นหลายวันแล้วจึงมาโรงพยาบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน ว่า แม้จะมีผลข้างเคียงอยู่บ้างแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต ซึ่งก่อนฉีดได้มีการให้คำแนะนำและหลังฉีดก็สามารถปรึกษาแพทย์ได้ตลอดเวลา เป็นแนวทางที่มอบให้กับ ศบค.ประชุมชี้แจง ทั้งเรื่องการกระจายสถานที่ฉีดวัคซีน ทั้งภาครัฐเอกชนที่ร่วมมือกัน มีบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ฉีดให้ และจะจัดหาเพิ่มเติมให้เท่าที่จะทำได้ ขอบคุณประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนหมอพร้อมมากพอสมควร ในการแพร่ระบาดระลอกใหม่จำเป็นต้องพิจารณาเพราะมีหลายพื้นที่มีการแพร่ระบาดมากและน้อยต่างกัน แต่ขอยืนยันว่าทุกคนได้รับการฉีดแน่นอน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ใดที่มีคนฉีดวัคซีนน้อยก็ให้กำชับเรื่องของมาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนนั้น ต้องพิจารณาถึงเรื่องปริมาณวัคซีนที่นำเข้ามาให้สอดคล้องกันแต่จะทำให้เร็วขึ้น ด้วยขีดความสามารถของกระทรวงสาธารณสุข ตอนนี้สถานที่ฉีดวัคซีนไม่มีปัญหาอยู่ที่ตัวเจ้าหน้าที่ ที่ต้องบริหารจัดการ หลายพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สีแดงยังมีปัญหาโดยเฉพาะแรงงานก่อสร้างและแรงงานอุตสาหกรรม เพราะเป็นแหล่งสร้างงานกลุ่มต่อไปคือครูที่ต้องเตรียมการเปิดโรงเรียน และกลุ่มที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ย้ำว่าขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการได้เพียงแต่ต้องการความเข้าใจ ไม่ต้องการให้ใครนำไปบิดเบือน
“ไม่มีสูตรใดสูตรหนึ่งที่สามารถทำได้ ต้องมีการปรับเปลี่ยนกันไปเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไข ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการหารือกันตลอดเวลามีการปรับแผนต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และจำนวนวัคซีนที่นำเข้ามา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะฉีดให้กับทุกคนอาจจะช้าบ้างหรือเร็วบ้าง แต่อย่าลืมและขอร้องอยากให้ฟังหมอในระบบเป็นผู้ชี้แจง และขอยืนยันหมอทุกคนหวังดี ถ้าชี้แจงและรับฟังทีเดียวก็จบ แต่ถ้าพูดหลายครั้งหลายคนไม่ตรงกันประชาชนจะเกิดความสับสนได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อถามถึงไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่คืออินเดียหรือแอฟริกาที่ระบาดเข้ามา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้วัคซีน ได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขว่าวัคซีนที่เรามีอยู่สามารถที่จะป้องกัน โควิด-19 สายพันธุ์ที่เข้ามาในประเทศไทยได้ ควบคู่ไปกับการรักษาทั้งยาฉีดและยากิน ซึ่งปรับใช้ตามลำดับความรุนแรงของโรค เพียงแต่ไม่อยากให้ทุกคนประมาทและตื่นตระหนก แต่ขอให้ตระหนักต่อตัวเอง ครอบครัวและสังคม เพราะเป้าหมายของคนทั้งประเทศเป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องดูแล แต่เราต้องบริหารจัดการปริมาณวัคซีนและปริมาณคน ก็ขอให้มั่นใจไปพบแพทย์ให้ทันเวลาไม่ว่าจะเป็นเชื้ออะไรก็ตามอย่าปกปิดหรือปิดบัง