“สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการจัดสรรงบประมาณ ให้ กลาโหม มากกว่า สาธารณสุข ว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง พร้อมเตือนสติ “บิ๊กตู่” ศัตรูที่รัฐบาลต้องต่อสู้คือ ปัญหาโควิด-19 ไม่ใช่ รถถัง และ เรือดำน้ำ
วันที่ 23 พ.ค.2564 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 ว่า เรากำลังเผชิญกับมหาวิกฤติโรคร้าย ที่ได้สร้างความทุกข์ยากให้กับประชาชนคนไทยทั้งต่อสุขภาพ และสภาพเศรษฐกิจ ดังนั้นคงไม่มีภารกิจอื่นใดที่สำคัญไปกว่าการควบคุมโควิด-19 ที่ทุกประเทศล้วนมีแผนจะสยบโควิด ให้จบภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ และทำมาให้กินได้อีกครั้ง รัฐบาลไทยกลับจัดงบประมาณปี 65 ให้กระทรวงกลาโหมสูงถึง 203,282 ล้านบาท
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ที่มีหน้าที่ต้องออกไปสู้รบกับโควิด-19 กลับจัดให้เพียง 153,940 ล้านบาท รัฐบาลควรทุ่มประมาณไปการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นลำดับแรกก่อน โดยเฉพาะการเร่งจัดซื้อวัคซีนคุณภาพดีหลากหลายชนิดให้เพียงพอและรวดเร็ว รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพสาธารณสุขไทยในการรับมือการแพร่ระบาด ทั้งเพิ่มเตียง อุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็น และการตรวจเชิงรุก
“ศัตรูที่ต้องสู้รบขณะนี้คือเชื้อโรคโควิด-19 ตัวเล็กๆ ที่ต้องใช้วัคซีนคุณภาพดีเป็นอาวุธ ไม่ใช่รถถัง หรือเรือดำน้ำ ทำไมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาต้องให้เงินกองทัพมากมายขนาดนั้น จึงขอร้องให้ทบทวนการจัดงบประมาณประจำปี 65 เข้าใจดีว่ากองทัพจำเป็นต้องมีการพัฒนา แต่จะขอให้กองทัพโปรดเสียสละชะลอโครงการต่างๆ ไว้เพียงแค่ปีนี้ปีเดียว เพื่อระดมงบประมาณเอาไปต่อสู้กับโรคร้าย และช่วยเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับประชาชนให้รอดเสียก่อน แต่ถ้ายังดึงดันจัดงบประมาณกันแบบนี้ไม่ใช่ไทยชนะ แต่จะเป็นใครชนะทุกท่านคงรู้อยู่แก่ใจ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
