โฆษกพรรคก้าวไกล โจมตีการจัดสรรงบประมาณ รัฐบาล ของ กระทรวงกลาโหม ชี้ งบไร้กาลเทศะ เพิ่มไม่เท่ากับพอ ลดไม่เท่ากับงฐฯที่ไม่ถูกกาละเทศะ เตือนอย่าเอา งบฯแก้ปัญหาโควิด ไปให้กองทัพใช้จัดซื้ออาวุธ อย่างสุรุ่ยสุร่าย
วันที่ 22 พ.ค.2564 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงความเตรียมพร้อมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ว่า ข้ออ้างของรัฐบาลในการจัดงบประมาณ เช่น รระบุว่า ได้ปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมลงแล้ว และเพิ่มงบประมาณให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้วนั้น อย่างไรก็ตามตรรกะสำคัญ คือ เพิ่มไม่เท่ากับพอ ลดไม่เท่ากับงบที่ไม่ถูกกาลเทศะ จะหมดไป
เพราะเรายังพบว่ากระทรวงกลาโหมยังมีงบฯที่ไม่ถูกกาลเทศะอยู่ หากเปิดเผยออกมาแล้วประชาชนจะรับไม่ได้ และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและกองทัพแย่ลงไปกว่านี้อีก เช่น การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และเรือดำน้ำ
ขณะเดียวกัน ยังพบว่า กระทรวงศึกษาธิการ มีงบประมาณที่พร้อมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในโรงเรียนรองรับการแพร่ระบาด โควิด-19 น้อยมาก ปัจจุบันต้องใช้ระบบเรียนออนไลน์ หากเด็กไม่มีอุปกรณ์ที่จะเรียนออนไลน์จะทำอย่างไร เมื่อเด็กไม่ได้เรียนออนไลน์ จะทำให้เกิดความสูญเปล่าของเวลา ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ส่วนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังไม่พบการจัดงบประมาณเพื่อทำระบบสถานกักกันผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนแออัด หรือ ต่อให้มีการจัดงบฯ ก็ไม่มีอย่างมีนัยยะสำคัญ สุดท้ายก็จะเหมือนกับกรณีงบฯ 2564 ที่จัดสรรดูแลเรือนจำ 750,000 บาท เพื่อดูแลเรือนจำ 142 แห่ง ซึ่งไม่เพียงพอ
นายวิโรจน์ กล่าวว่า งบไร้กาลเทศะไม่เท่ากับลด แต่ต้องเท่ากับเลิก การที่กองทัพดึงดันจะนำงบประมาณมหาศาลไปซื้อวุธ และการอ้างสถานการณ์การแพร่ระบาดแล้วนำงบไปให้กองทัพนั้น กองทัพเกี่ยวอะไร สุดท้ายจะนำงบไปซื้อยาอะไรไม่รู้ไปพ่นตามโขดหินหรือ คืออย่าเอาโควิด-19 ไปของบที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจของตัวเอง และใช้ไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่เกิดประสิทธิผลป้องกันการแพร่ระบาด และไม่เกิดผลกับประชาชน นี่คือสิ่งที่เราไม่พอใจ คือ โควิด-19 ไม่ควรจะทำให้ใครรวยขึ้น