ดร.มหาธีร์ โมฮาหมัด อดีตผู้นำมาเลเซีย เรียกร้อง ให้ประเทศมุสลิมที่ร่ำรวยในตะวันออกกลาง ผนึกกำลังกดดันอิสราเอลทางเศรษฐกิจ แทนการให้กำลังแก้แค้นที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์
ดร.มหาธีร์ โมฮาหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวผ่าน Skype ในรายการอภิปราย Dialog Tiga Penjuru ว่า ประเทศมุสลิมจำเป็นต้องตระหนักว่า พวกเขาไม่มีกองทัพที่จะเผชิญหน้ากับอิสราเอล แต่สิ่งที่มี คือ ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางควบคุมอุปทานน้ำมันของโลก ดังนั้น จงต่อสู้โดยใช้จุดแข็งที่มีอยู่ และจงตระหนักถึงจุดอ่อนของตนในการกำหนดยุทธศาสตร์ เพื่อต่อต้านการกดขี่ของอิสราเอลในปาเลสไตน์
ดังนั้นชาวมุสลิมควรเลิกคิดที่จะแก้แค้นอิสราเอลที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์ แต่ควรจะใช้วัตถุดิบที่พวกเขามี เพื่อกดดันอิสราเอลแทน ที่ผ่านมา อิสราเอลแสดงให้เห็นว่า ต้องการจะยึดครองปาเลสไตน์ทั้งหมดโดยไม่สนใจว่าโลกจะคิดอย่างไร เพราะพวกเขาได้รับการปกป้องจากประเทศมหาอำนาจด้าน ดาโต๊ะ สรี อับดุล ฮาดี อาวัง กล่าวแสดงความเห็นด้วยกับ ดร.มหาธีร์ และเสริมว่า ชาวมุสลิมไม่ควรสร้างศัตรูด้วยการวางระเบิดสถานทูต โรงแรม และสถานที่สาธารณะ “นี่คือการกระทำของผู้ที่เพิกเฉยต่อศาสนาของตน ชาวมุสลิมต้องตระหนักในเรื่องนี้”
.ต่อกรณีที่ประเทศมุสลิม อันได้แก่ เอมิเรตส์ ซูดาน และบาห์เรน ที่สร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอล เขากล่าวว่า จะพยายามล้อบบี้ประเทศต่าง ๆ โดยจะจัดการประชุมออนไลน์ เพื่อรวมตัวกันต่อต้านการกดขี่ที่มีต่อปาเลสไตน์
ดาโต๊ะ ดร. อาฟีฟี่ อัล-อาคิตี ผู้ร่วมอภิปรายท่านหนึ่งแสดงความเห็นว่า ประเทศมุสลิมควรเลียนแบบประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกที่ต่อต้านไซออนิสต์มากที่สุด ไอร์แลนด์ มีนโยบายภายในที่คว่ำบาตรและจำกัดการค้ากับอิสราเอล ในขณะที่รัฐบาลไอร์แลนด์ส่งความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซ่าโดยตรง ที่มีทั้งด้านการเงิน ด้านการแพทย์ และวิศวกร เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในปาเลสไตน์
อาฟีฟี่ ยังกล่าวว่า แค่ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลนั้นไม่เป็นการเพียงพอ แต่ควรทำมาตรการอื่น ๆ ที่สามารถทำได้พร้อมกันไปด้วย หนึ่งในนั้นคือการประกาศ ว่า อิสราเอลเป็นรัฐแบ่งแยก ที่ต้องการสร้างรัฐเฉพาะของชาวยิวขึ้น โดยกีดกันประชาชนที่นับถือศาสนาอื่น ๆ