โฆษก ศบค. แจง แผนกระจายวัคซีนผ่าน 3 ช่องทาง ดีเดย์ 7 มิ.ย.64 ฉีดพร้อมกัน โดยให้”หมอพร้อม” เป็นระบบกลาง ในการเก็บข้อมูล และ ติดตามผลข้างเคียง พร้อม ระบุ นายกฯ ยืนยัน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนไทยทุกคน ต้องได้วัคซีน
วันที่ 21 พค.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค. หารือกันถึง แผนบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่บรรจุลงในวาระแห่งชาติ โดย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) สรุปแผนกระจายวัคซีนว่า จะมีการฉีดวัคซีนพร้อมกันดีเดย์ วันที่ 7 มิ.ย.2564 ทั้งนี้ การลงทะเบียนของวัคซีนได้ผ่าน 3 ช่องทาง คือ
1.การจองผ่านระบบหมอพร้อม 2.ลงทะเบียน ณ จุดบริการ(On site Registration) เสริมจากระบบหมอพร้อม และ 3. กระจายวัคซีนให้กลุ่มเฉพาะ เช่น แพทย์ พยาบาล อสม. เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ครู นักธุรกิจ นักศึกษา กลุ่มบุคคล ฯลฯ เป็นต้น หากมีกลุ่มหรือสมาคมใดที่มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน สามารถยื่นเรื่องให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาจัดสรรวัคซีนและจัดเตรียมสถานที่ฉีดให้ต่อไป
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี รับทราบระยะการลงทะเบียน และ ฉีดวัคซีน ระยะที่ 1 ในขณะนี้จนถึงวันที่ 6 มิ.ย. เป็นการทดสอบระบบลงทะเบียนการฉีด โดยแบ่งโควตาไปฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับ ระยะที่ 2 วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป ระยะที่จะทำเต็มที่ เนื่องจากมีวัคซีนจำนวนมากขึ้น เริ่มการฉีดวัคซีนทั้งระบบเป็นวาระแห่งชาติ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ตัวแทนนักกีฬา นักเรียนนักศึกษาที่ต้องไปต่างประเทศ วัยทำงานผู้มีสิทธิ์ประกันสังคม ประชาชนทั่วไป และอื่นๆ
ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ นายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่ต้องกังวล จะไม่มีการทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตรงนี้เป็นเพียงกลุ่มที่เราย่อมา โดยสรุปแล้วตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป ทุกกลุ่มจะได้รับวัคซีนแน่นอน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการจองฉีดวัคซีนและการกระจายออกไป ซึ่งระบบ “หมอพร้อม” จะเป็นระบบกลางในการวางแผนในการเก็บข้อมูลเรื่องของการฉีดวัคซีน และ ติดตามผลของการฉีดวัคซีนว่า มีผลข้างเคียงอย่างไร รวมถึงการออกใบรับรองในการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ การลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม จะมีคอขวดอยู่ ซึ่งจะมีการเปิดประตู อีกหลายช่องทางให้ประชาชน เพื่อให้เกิดการลงทะเบียนรับวัคซีนให้มากขึ้น