รองเลขาฯ เพื่อไทย ชี้รัฐบาลเจอทางตัน งบฯ 65 ชนเพดาน หนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะทะลุ 60% เงินกู้ใกล้หมด ไม่มีเงินพยุงเศรษฐกิจ-เยียวยาประชาชน
วันที่ 15 พ.ค. 2564 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 ว่า มีข้อจำกัด ชนเพดานในทุกมิติจนจะนำไปสู่ทางตันทางการคลัง ดังนี้ ทางตันที่ 1 ขาดดุลเต็มพิกัด ต้องกู้ชดเชยเต็มเพดาน โดยมาตรา 21 พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ กู้เพื่อชดเชยการขาดดุลได้ไม่เกิน 20% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 3.1 ล้านล้านบาท บวกกับ 80% ที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น ซึ่งรวมเท่ากับ 700,000 ล้านบาท เท่ากับยอดขาดดุล 700,000 ล้านบาทของงบปี 65 พอดี เต็มเพดานแล้ว“หมายความว่าถ้าเก็บภาษีไม่เข้าเป้าที่ 2.4 ล้านล้านบาทซึ่งเป็นไปได้สูงมาก เราก็จะเข้าสู่ภาวะทางตันทางงบประมาณทันที ทางตันที่ 2 ขาดดุลของงบประมาณ 700,000 ล้านบาท แซงหน้างบประมาณรายจ่ายลงทุน 624,399.9 ล้านบาท ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ม.20(1) ไปเรียบร้อย แต่รัฐบาลแก้ตัวว่าจะเพิ่มรายจ่ายลงทุนช่องทางอื่นๆ แทน เช่น PPP Thailand Future Fund และกู้ตาม ม. 22 พ.ร.บ.หนี้สาธารณะฯ ซึ่งฟังไม่ขึ้น เป็นการจับแพะชนแกะ เอานู่นมาโปะนี่ นับรวมแบบข้างๆคูๆ เป็นคนละส่วนกัน”
นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า ทางตันที่ 3 หนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะทะลุ 60% ในปี 65 หนี้สาธารณะถูกประเมินว่าจะอยู่ที่ 56-57% ณ ก.ย.64 รวมผลกระทบจากโควิดระลอก 2 แล้ว แต่ยังไม่รวมผลกระทบจากระลอกที่ 3 ประมาณ -1.5% ของ GDP หรือความเสียหาย 240,000 ล้านบาท หากรวมก้อนนี้และที่ต้องกู้เพื่อชดเชยขาดดุลปี 65 แล้ว หนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะทะลุ 60% ในปี 65 นั่นคือทางตันของการกู้เงิน และทางตันที่ 4 เงินที่กู้มาเยียวยาฟื้นฟู 1 ล้านล้านบาทจะหมดแล้ว โอนจากงบฟื้นฟูมาโปะงบเยียวยาอยู่เรื่อยๆ ทำให้แทบไม่ได้ลงทุนฟื้นฟูอะไรเท่าไหร่
“ชุดมาตรการเยียวยาล่าสุด 2.4 แสนล้านบาท ก้อนสุดท้ายก็ไปกินในส่วนงบฟื้นฟูแทบหมด นั่นหมายความว่าหากไม่นับรวมงบกลาง เราไม่มีเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดไปพยุงเศรษฐกิจ และเยียวยาประชาชนจากโควิดต่อจากนี้แล้ว งบประมาณปี 65 ใน 6 ยุทธศาสตร์ก็ไม่ได้มีเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้สำหรับการเยียวยา ทั้งนี้ งบประมาณปี 65 อยู่ในภาวะมืดแปดด้าน ชักหน้าไม่ถึงหลัง เดินไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน” นายเผ่าภูมิกล่าว