รมว.แรงงาน เผย นายกรัฐมนตรี ห่วงใยต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล – ปาเลสไตน์ จากการสู้รบในฉนวนกาซา ทำให้แรงงานไทย 1 รายได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด สั่งการ ดูแลสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายพร้อมประสานแจ้งให้ญาติทราบถึงความห่วงใยและการช่วยเหลือในทันที
วันที่ 15 พ.ค.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล – ปาเลสไตน์ จากการสู้รบในฉนวนกาซาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล ล่าสุดได้รับแจ้งจากฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่า นายสิทธิโชค นาน้ำ อายุ 24 ปี ชาวอุดรธานี แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.60 ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด จากการโจมตีโดยกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 โดยนายจ้างได้ส่งตัวนายสิทธิโชคเข้ารับการรักษาโดยใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพในโรงพยาบาล Soroka ,Beer Sheva ปัจจุบันอาการปลอดภัยแล้วสำหรับการให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นได้ให้ สำนักงานแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เข้าไปเยี่ยมและดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ โดยได้มอบเงินสงเคราะห์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จำนวน 30,000 บาท และสั่งการให้สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ประสานให้หน่วยงานในสังกัด กระทรวงแรงงานจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวของนายสิทธิโชค เพื่อให้กำลังใจ และแจ้งสิทธิประโยชน์การดูแลคุ้มครองตามกฎหมายแก่ครอบครัวและทายาททราบด้วยแล้ว
ปัจจุบันประเทศไทยได้รับการจัดสรรโควต้าการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในภาคเกษตรประเทศอิสราเอล จำนวน 5,099 คน ได้ดำเนินการจัดส่งไปแล้ว จำนวน 3,100 คน โดยรัฐอิสราเอลจะส่งเครื่องบินเหมาลำมารับทุกวันพฤหัสบดี เวลา 09.00 น. สัปดาห์ละประมาณ 250 คน สำหรับค่าใช้จ่ายเป็นค่าตั๋วเครื่องบินไป – กลับและค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะอยู่ที่คนละ 50,000 บาท สัญญาจ้าง 3 ปี จากนั้นสามารถต่อได้อีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี มีรายได้เฉลี่ยคนละประมาณ 45,000 – 50,000 บาทต่อเดือน
รมว.แรงงาน ยังเน้นย้ำสำหรับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จะต้องไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้รับการคุ้มครอง และสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับการดูแลสิทธิประโยชน์หากประสบอันตราย หรือประสบปัญหาเหมือนเช่นกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ สามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน