ดีเดย์!! 14พ.ค.64 รพ.บุษราคัม พร้อมให้บริการ”เตียงสนาม”ก่อนรองรับผู้ป่วยโควิด

รมว.สาธารณสุข ตรวจเยี่ยม รพ.บุษราคัม รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง จาก กทม.และปริมณฑล เฟสแรก เตรียมเปิดให้บริการ 14 พ.ค.นี้ ขณะ ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นำกำลังพล ช่วยประกอบเตียงสนาม

วันที่ 11 พ.ค. 2564 ที่ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม ก่อนเปิดให้บริการวันที่ 14 พ.ค.2564 โดย นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม ที่ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้ผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว จะช่วยลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตได้ และเป็นการช่วยให้โรงพยาบาลในเขต กทม. ให้มีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนัก กลุ่มสีแดงได้อย่างเต็มที่ทั้งนี้ได้ เริ่มดำเนินการเ ตั้งแต่ วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยจะเปิดให้บริการวันที่ 14 พ.ค.2564 เบื้องต้น รับผู้ป่วยได้ประมาณ 1,200 คน และสามารถ เพิ่มเตียงได้ 3,000 – 5,000 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วย กลุ่มสีเหลืองที่เจ็บป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งจากในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และสายด่วนต่างๆ จากกทม. และปริมณฑล ให้การดูแลผู้ป่วยครบวงจร ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยระดมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ จาก 60 จังหวัด ที่พบการแพร่ระบาดน้อย มาหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ รวม 780 คน แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสละ 260 คน และใช้ทรัพยากร ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์จากเขตสุขภาพที่ 4สำหรับการจัดพื้นที่ในเฟสแรก ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 3 แบ่งเป็น 4 โซน ดังนี้ โซน A จำนวน 270 เตียง, B จำนวน 242 เตียง, C จำนวน 290 เตียง และ D จำนวน 290 เตียง ขยายได้ถึง 1,200 เตียง พร้อมติดตั้งท่อช่วยหายใจบริเวณหัวเตียง รองรับผู้ติดเชื้อสีเหลืองที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเรียบร้อยแล้ว และ เช้าวันนี้ พล.อ.นเรนทร สิริภูบาล ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำกำลังพลพร้อมจิตอาสา 485 คน ร่วมกันประกอบเตียงกระดาษและเครื่องนอนที่ได้รับบริจาค จำนวน 1,200 เตียงกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกับสมาคมวิศวกรรมปรับอากาศ ติดตั้งตู้ไอซียูความดันลบ จำนวน 100 ตู้ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนติดตั้งห้องอาบน้ำพร้อมอุปกรณ์ ที่ได้รับบริจาคจำนวน 364 ห้อง มีอุปกรณ์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีในอากาศในห้อง และบนพื้นผิวสำหรับห้องน้ำ นอกจากนี้ ยังมีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ภายนอก การบำบัดน้ำเสีย กำจัดขยะติดเชื้อ มีจนท.ตำรวจในพื้นที่ช่วยดูแลจัดการการเข้า-ออกพื้นที่ และระบบดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง